เบี้ยหงาย
และแล้วการเลือกตั้งนายกสมาคม กีฬาฟุตบอลฯและสภากรรมการชุดใหม่ 2567-2571 ที่จะเข้ามารับไม้ต่อจาก “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ก็กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
ที่ผ่านมานั้นผู้สมัครส่วนใหญ่ หรือพูดได้ว่าเกือบทั้งหมดจะเปิดหน้าเปิดตาและเปิดปากออกมาแสดงวิสัยทัศน์ แนวทาง และมุมมองตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะผ่านสื่อ ผ่านเวทีเสวนา หรือการพูดจาผ่านโซเชียลมีเดีย
ไม่ว่าจะเป็น วรงค์ ทิวทัศน์ อดีตเลขานุการฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด, พอลลีน งามพริ้ง อดีตประธานเชียร์ไทยพาวเวอร์ หรือ ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ คมกฤช นภาลัย คนข่าวฟุตบอลผู้คร่ำหวอด
เชื่อว่าหลายท่านที่สนใจในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ คงจะได้ยินผ่านหูและผ่านสายตากันมาบ้างแล้ว
เว้นแต่ผู้สมัครตัวเต็งอย่าง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ไม่ได้มาร่วมเวทีกับผู้สมัครคนต่างๆ แต่ใช้แนวทางในการให้ความสำคัญกับการเดินสายพบปะกับสโมสรสมาชิก เพื่อรับฟังปัญหาของสโมสรต่างๆ อันจะนำไปสู่การแก้ปัญหาทั้งระบบ ซึ่งก็ไปมาทั่วทุกภาคแล้วก็ว่าได้
ก่อนจะไลฟ์สดเปิดใจผ่านแฟนเพจ และช่องยูทูบในเครือข่าย ถ้าไม่มีอะไรสะดุด แฟนๆที่ติดตาม “มาดามแป้ง” คงจะได้รับฟังกันไปแล้ว
ซึ่งก็เป็นสไตล์ หรือแนวทางของแต่ละคนก่อนจะถึงวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ 8 ก.พ. 2567
แน่นอนใครก็รู้ว่าตัวเต็งคือท่านไหน ซึ่งไม่ใช่เรื่องดูถูกดูแคลนใคร หรือเอออวยกับใคร แต่เมื่อข้อเท็จจริงเป็นการเลือก
โดยสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ 72 เสียง หรืออาจจะเพิ่มอีกหนึ่งก็แล้วแต่ก็เห็นกันอยู่ว่าเมื่อมีการเปิดตัว “มาดามแป้ง” อย่างเป็นทางการ ผู้บริหารสโมสรใหญ่ๆที่มีเครือข่าย ก็ประกาศสนับสนุนกันอย่างเปิดเผย รวมถึงทีมต่างๆอีกมากมาย ก็ชัดเจน เปิดหน้าเปิดตากันอยู่แล้ว
เพียงรอดูว่าคะแนนอย่างเป็นทางการจะออกมาอย่างไร
โดยภาพที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 ก.พ.2567 แม้ว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯจะวางระเบียบไว้เข้มงวด ในช่วงเลือกตั้ง จะให้แค่ กกต. เลขาธิการสมาคมฯ และตัวแทนสโมสรสมาชิกเท่านั้นเข้าร่วมประชุมได้ นอกนั้นไม่มีสิทธิ์อยู่ในห้อง ส่วนผู้สมัครทั้ง 5 คน ก็จะต้องอยู่ในห้องรับรองที่เตรียมเอาไว้ให้เท่านั้น นอกจากนี้ยังไม่มีการถ่ายทอดสดการประชุมดังกล่าวออกสู่สาธารณะด้วย
แต่กระบวนการต่างๆคงจะราบเรียบ ราบรื่น และเต็มไปด้วยรอยยิ้มมากกว่าครั้งก่อนๆที่ดูจะมีรังสีแห่งการห้ำหั่นกัน!
ก่อนวันที่ 8 ก.พ. เราได้เห็นภาพของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯซึ่งจะย่างก้าวสู่ยุคใหม่ กำลังจะอยู่ภายใต้การนำของนายกสมาคมคนใหม่ ที่มีศักยภาพ อ่อนน้อม ถ่อมตน เปี่ยมด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วน และยากที่จะมีผู้ใดเสมอเหมือน ทั้งมากด้วยผู้สนับสนุนที่รายล้อม จนหลายคนออกจะเป็นห่วงอยู่ห่างๆ
แต่หลังวันที่ 8 ก.พ. ก็หวังว่าจะถึงเวลาแสดงตัวตน ที่ต้องนำพาด้วยความแข็งแกร่ง บ้างก็ต้องแข็งกร้าว ไม่ต้องเกรงใจใครจนเกินควร มุ่งไปด้วยความแน่วแน่มั่นคง ใช้ทุกทรัพยากรเพื่อให้ฟุตบอลไทยเดินหน้า ข้ามทุกขวากหนาม ไปให้ได้...
“เบี้ยหงาย”
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่