โจโจ้
ผ่านสายตาพระเดชพระคุณแฟนบอลชาวไทยไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการแข่งขันนัดแรกของ “ช้างศึก” ในเกม “เอเชียนคัพ 2023” รอบสุดท้าย
ส่งใจเชียร์อีก 2 นัดที่เหลือ 21 ม.ค. ดวลแข้งโอมาน เวลา 21.30 น. ปิดท้าย 25 ม.ค. กับซาอุดีอาระเบีย เวลา 22.00 น. แฟนบอลห้ามพลาดส่งกำลังใจไปเชียร์ช้างศึกให้ก้าวไปถึงฝั่งฝันได้ทางช่องพีพีทีวี 36 และ ทีสปอร์ต 7 แถมด้วยนัดชิงชนะเลิศอีก 1 นัด
นอกเหนือจากผลของช้างศึกในเอเชียนคัพแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงเริ่มนับถอยหลังสู่การเลือกประมุขบอลไทยที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 ก.พ.นี้
แม้กระแสที่ออกมาค่อนข้างแบเบอร์โอกาสที่จะพลิกโผแทบไม่มี เชื่อสิ่งที่ทุกคนคาดหวังคงไม่ใช่นายกแต่อยากเห็นนโยบายที่ชัดเจนสามารถจับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรมมากกว่า
โดยเฉพาะการกู้วิกฤติศรัทธาผลงานทีมชาติไทยแทบจะทุกชุดที่วันนี้สาละวันเตี้ยลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงลีกในประเทศที่เริ่มถอยหลังลงคลอง จนส่งผลเสียต่อผลงานของช้างศึกทุกวันนี้
เท่าที่ฟังจากความคิดของบรรดาแคนดิเดตผู้สมัครนายกหลายคน สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุด การสร้างฐานรากแบบมั่นคงอย่างพีระมิดเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืนไม่ใช่แบบฉาบฉวย
อีกสิ่งที่นับว่าสำคัญและอยากฝากถึงว่าที่นายกป้ายแดงควรให้ความสำคัญกับทีมชาติมากกว่าสโมสรอย่าให้เหมือนกับชุดที่ผ่านมา
วันนี้เราทิ้งโอกาสไปหลายอย่างโดยเฉพาะเรื่องการเห็นสโมสรสำคัญกว่าทีมชาติ จริงอยู่สโมสรลงทุนเยอะย่อมอยากได้ผลงานที่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
แต่บางครั้งต้องรู้จักคำว่าเสียสละไม่ใช่ทุกสโมสรพร้อมใจส่งนักเตะที่ดีที่สุดไปร่วมทีมชาติ แต่ดันมีบางสโมสรไม่ปล่อยตัวเพราะอยากให้ผลงานของตัวเองดีกว่า
เห็นมาเยอะตั้งแต่ “ฟีฟ่าเดย์” ที่ด้อยค่าไม่ยอมส่งนักเตะที่ฝีเท้าดีไปร่วม นั่นเท่ากับทิ้งโอกาสที่จะทำให้เด็กกล้าแกร่งในทันที
สุดท้ายเป็นไงมานั่งเสียใจตอนหลังแม้จะออกมาคร่ำครวญหรือขอโทษแฟนบอลก็ไม่เกิดประโยชน์เพราะผลแข่งผ่านพ้นไปแล้ว
ทั้งหมดล้วนเป็นภารกิจบางส่วนที่สำคัญของนายกคนใหม่ที่จะเข้ามาบริหารเก้าอี้นายกบอลไทย.
โจโจ้
คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม