หน้าแรกแกลเลอรี่

ภาพที่ปรากฏ

เบี้ยหงาย

13 ธ.ค. 2566 05:15 น.

ดูจะใกล้เป็นเรื่องปกติไปแล้ว กับข่าวที่สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี ได้มีการประสานกับสมาคมกีฬาฟุตบอล แห่งประเทศไทยฯ แจ้งถึงการที่ยังไม่มีเอกชนรายใดของไทยติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023

ฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียทั้งที่ใกล้จะถึงการแข่งขันอยู่แล้ว โดยเอเชียนคัพครั้งนี้ได้ขยับมาจัดระหว่างวันที่ 12 มกราคมถึง 10 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ประเทศกาตาร์ เท่ากับว่าจากนี้ไปเหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึงเดือนดี

โดยฟุตบอลเอเชียนคัพครั้งนี้ทีมชาติไทยถูกจับให้อยู่ในกลุ่มเอฟ ร่วมกับซาอุดีอาระเบีย ทีมอันดับ 56 ของโลก, คีร์กีซสถาน ทีมอันดับ 98 ของโลก และโอมาน ทีมอันดับ 74 ของโลก ซึ่งนัดแรกของ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยของเราจะพบกับคีร์กีซสถาน ในวันที่ 16 มกราคม

ต้องไม่ลืมว่า ฟุตบอลเอเชียนคัพนั้น ไม่ได้เป็น 1 ใน 7 รายการกีฬาที่อยู่ในกฎ Must Have ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นั่นหมายถึงภาครัฐลงมายุ่งเกี่ยวไม่ได้ เป็นเรื่องของเอกชนจะไปว่ากันเอง

รวมทั้งสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็เป็นเพียงผู้ประสานกับเอเอฟซี และบริษัทผู้ดูแลลิขสิทธิ์และสิทธิประโยชน์ของเอเอฟซี ซึ่งก็คือ “เอเชีย ฟุตบอล กรุ๊ป” ของประเทศกาตาร์ เท่านั้น

เมื่อครั้งฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 ก็เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ แต่ตอนนั้นได้ฮีโร่ “กองสลากพลัส” เข้ามาทุ่มซื้อลิขสิทธิ์และถ่ายทอดสดให้แฟนบอลไทยทั้งประเทศได้ชมกันมาแล้ว

แต่ครั้งนี้เอเชียนคัพ เกมที่ใหญ่กว่า แต่โอกาสของทีมไทยน้อยกว่าเยอะ จะมีใครเป็น “ฮีโร่” เข้ามาช่วย เวลานั้นสั้นเหลือเกิน
ยุคนี้ไม่มี “ลุง” เสียด้วย มีใครแอบคิดถึงหรือเปล่า!

ไม่ว่าจะมีใครเข้ามาอุ้ม หรือในที่สุดกลายเป็นคนไทยอดดูอย่างเป็นทางการ ต้องไปแสวงหาช่องทางอื่นตามศักยภาพของแต่ละคนก็ตาม

เพียงแค่ปรากฏเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น นั่นก็บ่งบอกได้แล้ว และเป็นการชี้ชัดเป็นเรื่องลบ ไม่มีบวก ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนภาพถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศนี้ ตอกย้ำถึงสไตล์การดูถ่ายทอดสดที่เปลี่ยนไป รวมถึงการเสื่อมค่าของเกมฟุตบอลชาติไทยที่ไม่สามารถนำไปสร้างมูลค่าได้มากพอ

เอกชนเองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับฟุตบอล และแฟนบอล ความ “อยากดู” อย่างเดียว ไม่ตอบโจทย์ทางธุรกิจ

ที่สำคัญ ทีมฟุตบอลชาติไทยเองก็ไม่ได้สร้างความเชื่อมั่น และดึงดูดเหมือนแต่ก่อน แน่นอนย่อมเกี่ยวพันกับศักยภาพ ภาพลักษณ์ และความคาดหวังต่อทีมโดยรวม

ไม่รู้ว่า บรรดาแคนดิเดตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลทั้งหลายจะมีแนวทางกับเรื่องในลักษณะนี้เช่นไร

สภาพอย่างนี้ไม่ดีแน่ บอลไทยไม่เหมือนเดิม...

“เบี้ยหงาย”

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่