ไทยรัฐออนไลน์
ม.เกษมบัณฑิต ผนึกเครือข่ายเปิดเวทีดีเบตวิสัยทัศน์ แคนดิเดตนายกสมาคมกีฬาลูกหนัง
ดร.เสนีย์ สุวรรณดี รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เปิดเผยว่าในฐานะที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตเป็นหนึ่งในสถาบันอุดมศึกษาที่ตระหนักและให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนากีฬามาอย่างต่อเนื่อง และในโอกาสที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กำหนดให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ตามความทราบแล้วนั้น เพื่อเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางอนาคตวงการฟุตบอลไทย มหาวิทยาลัยโดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ จึงผนึกกับเครือข่ายและสื่อมวลชนทางการกีฬาซึ่งประกอบด้วยมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา สถาบันการจัดการกีฬาเพื่อองค์กรกีฬา (WISDOM) หนังสือพิมพ์กีฬาสยามรายวัน สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ กำหนดจัดโครงการเสวนาทางวิชาการเรื่อง “อาสาพัฒนาบอลไทย Change Togetther” ด้วยการเชิญแคนดิเดตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลเข้าร่วมดีเบตเพื่อแสดงวิทัศน์และนำเสนอยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการบริหารจัดการสำหรับการพัฒนาและยกระดับวงการฟุตบอลไทย ในวันที่ 8 มกราคม2567 ระหว่างเวลา 13.30-16.00 น. ณ ห้องประชุมออดิทอเรียม ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย และเหนืออื่นใดในการจัดโครงการครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในมิติที่สำคัญของวงการกีฬาไทยที่มีการเปิดโอกาสให้ผู้แสดงตนลงแข่งขันในตำแหน่งนายกสมาคมซึ่งปรารถนาจะเห็นวงการฟุตบอลไทยก้าวไปสู่มาตรฐานสากลดังที่ชาติอื่นประสบมาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมสำหรับการบริหารจัดการ
ด้านนายณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา กล่าวเพิ่มเติมว่าในฐานะที่มูลนิธิฯ ให้การส่งเสริมและสนับสนุนวงการกีฬาไทยด้วยดีเสมอมาประกอบกับกีฬาฟุตบอลเป็นหนึ่งในกีฬามหาชนที่ได้รับความสนใจจากแฟนกีฬาไทยมาอย่างต่อเนื่อง และในโอกาสที่สมาคมกีฬาลูกหนังจะได้ผู้นำคนใหม่เข้ามาบริหารจัดการภายหลังการเลือกตั้ง การจัดดีเบตเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งได้แสดงวิสัยทัศน์และจุดยืนในการกำหนดทิศการพัฒนาจึงเป็นหนึ่งในพันธกิจที่มูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬาได้เข้าไปมีส่วนร่วมและสนับสนุน และคาดว่าในการจัดดีเบตครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในช่องทางที่ส่งผลให้สโมรสมาชิกซึ่งมีสิทธิเลือกตั้งตลอดจนแฟนกีฬาทั่วไปเมื่อรับทราบและเห็นมองของว่าที่ผู้นำคนใหม่แล้วก็คงจะตัดสินใจได้ว่าใครผู้ที่เหมาะกับการเป็นผู้นำองค์กรที่จะเข้ามาพัฒนาวงการฟุตบอลไทยต่อไป