กระชับวงล้อมปันความคิด “ศึกชิงเก้าอี้ประมุขลูกหนัง”

กระชับวงล้อมปันความคิด “ศึกชิงเก้าอี้ประมุขลูกหนัง”

ภายหลังสัญญาณ หรือปี่กลองการเลือกตั้งประมุขลูกหนังไทยดังขึ้นส่งผลให้เกิดกระแสและการตื่นตัวของคอบอลที่อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงกันอย่างน่าสนใจยิ่ง ประกอบกับก่อนหน้านี้เมื่อส่องไปดูรายชื่อหรือโฉมหน้าผู้สนใจทั้งที่เปิดหน้า (และหลบมุม) ภายใต้ความพร้อมที่จะขันอาสาเข้ามากอบกู้วงการบอลไทยก็ยิ่งทำให้เห็นว่าศึกนี้เป็นหนึ่งในการแข่งขันของคนกีฬาที่น่าสนใจยิ่ง

ขณะเดียวกันการนำเสนอทีมงานหรือจุดขายเพื่อนำไปสู่หมุดหมายของการเปลี่ยนแปลงของว่าที่นายกคนใหม่ก็ทยอยออกมาเรื่อยๆ สำหรับในมิตินี้ผู้ที่เพียบพร้อมไปด้วยสรรพกำลังไม่ว่าจะเป็นบารมี ขุมกำลังการสนับสนุนรวมทั้งปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องก็ถือว่าเป็นศักยภาพที่ทำให้โหวตเตอร์ได้นำไปพิจารณา

อย่างไรก็ตาม จากรายชื่อผู้สนใจที่จะลงชิงชัยในตำแหน่งประมุขลูกหนังไทยหากย้อนไปติดตามในความเคลื่อนไหวของผู้ที่เสนอตัวและเปิดหน้าภายใต้ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าก็มีให้เห็นอยู่สองสามรายไม่ว่าจะเป็น “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี พอลลีน พาลินี งามพริ้ง อดีตประธานชมรมเชียร์ไทย ตามด้วย วรงค์ ทิวทัศน์ อดีตเลขาไทยลีก และล่าสุดชื่อของธนศักดิ์ สุระประเสริฐ หนึ่งอุปนายกสมาคมลูกหนังชุดปัจจุบันก็มีชื่อเข้ามาร่วมแจมด้วย

วันนี้หากพิจารณาถึงแนวโน้มของผู้ที่มีโอกาสสำหรับเข้าไปนั่งบัญชาการ หรือเป็นนายใหญ่ของสมาคมกีฬาฟุตบอลหากนำปัจจัยแวดล้อมหรือกระแสต่างๆ เข้ามาประกอบดูเหมือนว่า “นางฟ้าลูกหนัง” มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ออกจะเป็นต่อ

ที่กล่าวเช่นนี้ใช่ว่าจะดูแคลนศักยภาพ และความมุ่งมั่นของผู้ที่จะลงสมัครรายอื่นแต่ภาพที่ปรากฏต่อสาธารณะไม่ว่าจะเป็นการจัดแถลงข่าวที่นำทีมงานมาอวดโฉมให้เห็นกันแบบเต็มคาราเบลรวมทั้งเดินหน้าไปสมัครเป็นรายแรกก็เข้าตำรา “ฟอร์มดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง” หรือถ้าจะเปรียบกับม้าแข่งที่ออกจากซองไปก่อนแล้วก็ดูเหมือนว่าคู่ต่อกรรายอื่นคงจะต้องทำงานกันหนักพอสมควร

ในการทำศึกเลือกตั้งชิงเก้าอี้ผู้นำบอลไทยคนใหม่หากจะกล่าวถึงศักยภาพตลอดจนตัวเต็งแน่นอนความคิดเห็นของผู้สนับสนุนและแฟนคลับย่อมแตกต่างกันไป แต่สำหรับนายกสมาคมคนปัจจุบันได้ออกโรงเชียร์และสนับสนุนว่าที่ประมุขลูกหนังคนใหม่ว่าเป็นผู้ที่พร้อมไปด้วยศักยภาพต่างๆ ผ่านสื่อด้วยลีที่น่าสนใจความตอนหนึ่งว่า

“คุณแป้งเท่านั้นที่ต่อยอดวงการฟุตบอลได้...เพราะผมยังมองไม่เห็นใครเลยที่มีศักยภาพเกินคุณแป้ง...ฯลฯ”

ต่อกรณีแรงเชียร์หรือการสนับสนุนคนที่ชอบและคนที่ใช่ต่อเก้าอี้ประมุขลูกหนังไทยของแฟนคลับเมื่อเข้าไปดูผลการสำรวจความคิดเห็นของแฟนกีฬาของ KBU SPORT POLLโดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตเมื่อเร็วๆนี้พบว่า

บุคคลที่เหมาะสมกับการเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เทไปที่ คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ตามด้วย พอลลีน งามพริ้ง ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ วรงค์ ทิวทัศน์ และพล ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ตามลำดับ

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่ทราบดีกันแล้วว่า ประมุข หรือจอมทัพ ที่จะนำไพร่พลไปร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาและยกระดับวงการบอลไทยให้ก้าวข้ามวังวนแห่งหลุมดำดังที่ผ่านมาย่อมจะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

การที่ใครจะไปใครจะมาจึงเป็นบทบาทของโหวตเตอร์ หรือสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ และเข้าร่วมแสดงตนเพื่อหย่อนบัตรในวันเลือกตั้งเท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสินใจในการกำหนดทิศทางอนาคตของวงการบอลไทย

และเหนืออื่นใดการได้มาซึ่งผู้นำภายใต้ศึกของการชิงความเป็นหนึ่งในครั้งนี้หากการดำเนินการเปี่ยมไปด้วย “SPIRIT” ภายใต้ปรัชญาของการกีฬาอย่างแท้จริง เชื่อว่ามิตินี้จะเป็นหนึ่งในต้นแบบของการแข่งขันสำหรับวงการกีฬาไทยที่น่าชื่นชมยิ่ง

รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร