แม่ลูกจันทร์
นายใหญ่ลูกหนังไทย #กระชับวงล้อมปันความคิด
ภายหลังสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ออกประกาศว่าด้วยการกำหนดการเลือกตั้งนายใหญ่สมาคมภายหลังที่ผู้นั่งในเก้าอี้เดิมประกาศจะลาออกในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
จากปรากฏการณ์ดังกล่าวกลับส่งผลให้เกิดสีสันและนำไปสู่ความตื่นตัวของคอบอลกับการจะได้มาซึ่งผู้นำคนใหม่กันอย่างคึกคัก
ที่น่าสนใจวันนี้ถึงแม้ยังไม่เป็นที่ปรากฏอย่างชัดเจนว่าผู้สมัครหรือผู้ที่จะอาสาเข้ามากอบกู้วงการกีฬาหมายเลข 1 ของประเทศให้ก้าวข้ามหลุมดำหรือวังวนแห่งปัญหาดังที่ผ่านมาจะเป็นใครและมีจำนวนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม
แต่เมื่อสัญญาณหรือปี่กลองของการเลือกตั้งกำลังจะมาเยือนจึงพบว่าผู้สนใจทีมจะเสนอตัวเพื่อให้สโมสรสมาชิกได้พิจารณาทั้งที่เปิดหน้าและหลบมุมต่างเผยทีมงานเพื่อเป็นการหยั่งเชิงกันอย่างต่อเนื่อง
ทีมงานที่พร้อมจะผนึกพลังร่วมกับว่าที่นายกเท่าที่เผยออกมาพบว่าเมื่อส่องเข้าไปดูจะเห็นว่ามีบุคคลในหลากหลายอาชีพที่จะเข้ามามีส่วนร่วม และเมื่อผนวกกับตัวบุคคลตลอดจนความมุ่งมั่นของว่าที่นายกรวมทั้งปัจจัยต่างๆ ด้วยแล้วก็ดูเหมือนว่าการเลือกตั้งในวงการกีฬาครั้งนี้จะคึกคักและตื่นเต้นกว่าที่ผ่านมาด้วยซ้ำไป
สาระสำคัญที่รองรับเหตุผลของความน่าสนใจและถือว่าเป็นสีสันของความน่าสนใจก็คงจะได้แก่ทีมงานของผู้สมัคร ซึ่งหากพิจารณาถึงคุณสมบัติหรือความเหมาะสมจะเห็นว่าแต่ละรายล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวหรือคลุกคลีกับวงการมาอย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอดีตผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน รวมทั้งผู้เล่น
อย่างไรก็ตามเมื่อกล่าวถึงการเลือกตั้งตราบใดที่ยังไม่มีการเปิดและปิดหีบการลงคะแนนอย่างเป็นทางการการจะชี้ว่าใครจะเข้า WIN หรือนอนมาก็คงไม่สามารถที่จะชี้ขาดและคาดเดาได้
ทั้งนี้เพราะถ้าส่องหรือย้อนไปดูการเลือกตั้งผู้นำสมาคมกีฬาของบางสมาคมก่อนหน้านี้ผู้ที่สังคมคาดหวังและเห็นว่าเหมาะกับการดำรงตำแหน่งหรือเมื่อผนวกกับผลการสำรวจความคิดเห็นผ่านโพลที่กระแสมาแรง
แต่ในวันหย่อนบัตรภายหลังการต่อรองและตกลงในรายละเอียดหน้างานกันลงตัวผลที่ตามมาบุคคลที่พร้อมไปด้วยภาวะผู้นำและคุณสมบัติที่สามารถเดินหน้าพัฒนาสมาคมได้กลับไม่เป็นที่ต้องตาต้องใจของสโมสรสมาชิกผู้มีสิทธิ์ในการซึ่งในมิตินี้สะท้อนให้เห็นว่าถ้าเขาคนนั้นไม่ใช่คนของตนหรือเป็นคนของใครก็อย่าหวังว่าจะฝ่าด่านไปได้
ที่สำคัญก่อนจะถึงวันประกาศผลและรู้ว่าใครคือจอมทัพในการที่จะเข้าพัฒนาและยกระดับวงการลูกหนังไทยให้ก้าวไกลสู่มาตรสากลก็หวังว่าผู้สมัครคงจะทำการบ้านและเตรียมที่จะแถลงนโยบายหรือนำเสนอวิสัยทัศน์ตลอดจนยุทธศาสตร์ให้เป็นที่ประจักษ์ชัดและสามารถจับต้องได้ต่อไป
เมื่อกล่าวถึงนโยบายและวิสัยทัศน์ของผู้สมัครหากย้อนกลับไปในอดีตต่อกรณีดังกล่าวจะเห็นได้ว่าแนวทางหรือกลยุทธ์ที่เสนอมานั้นบางครั้งก็เป็นเพียงหนึ่งในวลีหรือยาหอมที่ปล่อยมาเพื่อย้อมใจให้คนในวงการได้คล้อยตามและเคลิบเคลิ้มก็มีให้เห็นมาแล้วเช่นกัน
แต่ในทางกลับกันความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียโดยเฉพาะแฟนบอลที่อยากจะเห็นการขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่การพัฒนาและต่อยอดสู่ทิศทางอนาคตที่ดีกว่าแต่พบว่าในหลากหลายมิติแห่งความคาดหวังก็ยังไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมนัก สำหรับในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้เมื่อส่องไปดู
ในปรากฏการณ์หรือการเปิดตัวของผู้สนใจหรือว่าที่นายกถือได้ว่าครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่การต่อสู้หรือการแข่งขันจะเข้มข้นและน่าติดตามยิ่ง
อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งสำหรับบ้านเราไม่ว่าจะเป็นการเลือกในระดับใดก็ตามหรือแม้กระทั่งในแวดวงกีฬาหนึ่งในมิติหรือปรากฏการณ์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องมักจะหนีไม่พ้นเรื่องของการล็อบบี้หรือการยื่นผลประโยชน์พร้อมกับสัญญาว่าจะให้ผ่านหัวคะแนนก็มีให้เห็นเช่นกัน
แต่สำหรับนายกสมาคมกีฬานั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าผู้ที่จะเข้ามาในตำแหน่งนี้ย่อมเป็นผู้ที่พร้อมสำหรับการเสียสละและทุ่มเทเพื่อส่วนรวมโดยไม่มีผลประโยชน์หรือสิ่งตอบแทนใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง
ดังนั้นเพื่อให้วงการลูกหนังไทยได้รับการพัฒนาและยกระดับให้เท่าเทียมกับนานาชาติที่ก้าวไปไกลแล้ว เชื่อว่าในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นถ้าไม่มีปรากฏการณ์ของการชี้นำหรือภายใต้มือที่มองไม่เห็นก็หวังว่านายใหญ่สมาคมกีฬาลูกหนังคนใหม่ก็น่าจะเป็นคนที่ได้รับการยอมรับและตอบโจทย์ตลอดจนมีความรู้ มีประสบการณ์ หรือรู้ลึก รู้จริง รวมทั้งเข้าใจในบริบทของลูกหนังโลกอย่างแท้จริง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความคาดหวังของคอกีฬาทั้งมวลที่ต้องการจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของวงการบอลไทยว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ผู้ที่จะให้คำตอบหรือกำหนดทิศทางอนาคตบอลไทยตัวจริงก็คงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากสโมสรสมาชิกผู้มีสิทธิ์ตามข้อบังคับนั่นเอง
รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร