เบี้ยหงาย
เปิดหน้า เปิดตัวทีมงานแต่ละฝ่าย ออกมาให้เห็นบ้างแล้ว สำหรับว่าที่แคนดิเดตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยทั้งหลาย แต่ก็ยังไม่มีใครสมัครอย่างเป็นทางการออกมา ตอนนี้เลยเผยโฉมผ่านหูผ่านตาไปตามหน้าสื่อ บ้างก็เริ่มแย้มๆนโยบาย วาดฝันกันบ้าง ทดสอบชิมลางกันไป
ก็อ่านเพลินๆกันไปก่อน จะมีจินตนาการตามไปด้วยก็ไม่เสียหลาย พอเห็นคร่าวๆใครกลุ่มไหน พวกใด แต่ก็อย่าเพิ่งปักใจเชื่อไปเสียหมด ถึงเวลาจริงอาจจะไม่ใช่ก็ได้
ไว้รอดูกันชัดๆในวันยื่นใบสมัคร และประกาศรับรองในโอกาสต่อไป
เอาเป็นว่าใครจะเสนอตัว ระดมพล โชว์หน้าโชว์ตา ฉายภาพให้เห็นอะไรก็ว่ากันไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ผู้เลือก” จะเลือกอย่างไร ด้วยเหตุผลใด และโดยเฉพาะเลือกด้วยความรับผิดชอบเช่นไร
แน่นอนการเลือกตั้งนายกลูกหนังที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 ก.พ. (ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง) เราๆ ท่านๆไม่ได้เกี่ยวข้อง ได้แต่วิพากษ์วิจารณ์แต่ไม่มีสิทธิ์
ตามระเบียบของสมาคมกำหนดไว้ผู้มีสิทธิออกเสียง ได้แก่ ทีมจากไทยลีก 1 จำนวน 16 ทีม, ไทยลีก 2 จำนวน 18 ทีม, ทีมอันดับ 1-5 จากไทยลีก 3 แต่ละโซน (6 โซน) รวม 30 ทีม, แชมป์ลีกสมัครเล่น, ทีมอันดับ 1-2 ในฟุตซอลไทยลีก, ทีมอันดับ 1-2 ในฟุตบอลลีกหญิง, แชมป์ฟุตซอลลีกหญิง, แชมป์ฟุตบอลชายหาด และสมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ รวมทั้งสิ้น 72 เสียง
นั่นคือเสียงที่จะชี้ขาดให้ใครเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯคนใหม่
ก็หวังว่าจะจดและจำกับครั้งที่ผ่านมา สโมสรผู้มีสิทธิ์ทั้งหลายชอบใจ พอใจ หรือไม่ชอบใจ ไม่พอใจอย่างไร น่าจะมีประสบการณ์มาแล้ว!
ท่านทั้งหลายเป็นคนฟุตบอลอยู่ในจุดที่สำคัญของโครงสร้างแห่งครอบครัวฟุตบอลในยุคนี้ ที่จะเป็นผู้เลือกสรร นำพาให้คนใดคนหนึ่งซึ่งไม่เพียงจะเป็นประโยชน์แต่เพียงสโมสรของท่าน แต่ต้องเข้ามารับผิดชอบขับเคลื่อนกีฬาฟุตบอลของชาติ ซึ่งมีทั้งเรื่องของทีมชาติไทย ซึ่งเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศและเกียรติภูมิของชาติ
อีกทั้งภารกิจโดยตรงที่เกี่ยวข้องกับสโมสรสมาชิกทั้งหลาย ในส่วนของฟุตบอลอาชีพที่ต้องมีเรื่องของการบริหารจัดการ การทำธุรกิจและหาสิทธิประโยชน์เข้ามาโดยตรง ที่ผ่านมาสโมสรสมาชิกต้องเผชิญกับสถานการณ์มาอย่างไร ต้องดิ้นรนเช่นไร ระบบสิทธิประโยชน์และการหารายได้เข้ามานั้น ถูกต้องชอบธรรมและเอื้อประโยชน์ให้สโมสรเพียงใด แต่ละแห่งรับรู้รับทราบกันเอง
นี่คือสองเรื่องใหญ่ๆที่ต้องตระหนัก ยังไม่นับการวางรากฐานฟุตบอล การสร้างเยาวชน และการยกระดับผู้ตัดสินเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ รวมถึงภาพลักษณ์ในบทบาทอื่นๆ ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอล เป็นองค์กรใหญ่ที่อยู่ในเครือข่ายของนานาชาติ
หรือแม้แต่การประสานงานภายในที่ต้องประสานให้เกิดความสำเร็จของฟุตบอลไทยในอนาคต
อย่าเสี่ยงให้ทีมชาติล้มเหลว คนไทยทั้งประเทศเจ็บช้ำ อย่าเสี่ยงให้ฟุตบอลลีกซวนเซจากความผิดพลาดในการหาสิทธิประโยชน์ หรือเอื้อพวกพ้อง จำการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ต้องเรียกร้องหาคนช่วยของหลากหลายสโมสรไว้ให้ดี
เลือกใครก็เลือกไป
อย่าเลือกด้วยเสียงแว่วข้างหูเหมือนผีสั่ง ดั่งคนเมายา
แต่จงเลือกด้วยความรับผิดชอบ...
“เบี้ยหงาย”
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่