เบี้ยหงาย
เข้าแคมป์เก็บตัวกันมาสองสามวันแล้ว นักเตะทีมชาติไทยชุดคัดบอลโลก 2026 กับภารกิจสำคัญที่จะประเดิมสนามกับทีมชาติจีนในวันที่ 16 พ.ย.นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
ซึ่งเท่ากับว่าทีมไทยจะรวมทีมกันซ้อมจริงๆ เพียงราวๆ 1 สัปดาห์เท่านั้น คงไม่ต้องดูว่ามากน้อย พร้อมไม่พร้อม ด้วยเกมนี้เป็นเกมหลักของทีมชาติในทุกๆชาติ ซึ่งไทยเราก็ต้องเป็นเช่นนั้น
นั่นหมายถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสมาคมกีฬาฟุตบอล ทีมงาน สตาฟฟ์โค้ช และสโมสรสมาชิก รวมถึงนักเตะ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสมาคม จะต้องให้ความสำคัญสูงสุดเท่าที่ทำได้
และไม่ว่าจะทำให้ได้มากน้อยเท่าไหร่ เมื่อถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ด้วยความ “สูงสุด” มันจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยกอะไรมาลดทอนกับความร่วมมือทั้งหลาย เพื่อคำว่า “ทีมชาติไทย”
ด้วยสะท้อนถึง “ความรับผิดชอบ” ในฐานะที่เป็นองคาพยพของฟุตบอลไทยในทุกส่วน ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อคนไทยและประเทศไทยโดยรวม
อันแตกต่างจากเวลาที่เจอเรื่องเดือดร้อนเจอปัญหาที่กระทบต่อสโมสร นักเตะ หรือการบริหารใดๆที่มีการเรียกร้อง โหยหาถึงความช่วยเหลือต่างๆ นานา ซึ่งนั่นเป็นส่วนของการดำเนินการในบทบาท สถานภาพของฟุตบอลอาชีพ อันเป็นธุรกิจแขนงหนึ่ง แต่นี่คือ “ความรับผิดชอบ” ด้วยสำนึกถึงการเป็นตัวแทนของชาติไทย
ที่ผ่านมา ในช่วงเวลาของปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ซึ่งสโมสรสมาชิกต้องปล่อยตัวนักเตะให้กับทีมชาติ สโมสรจะปล่อยจริงหรือไม่ รวมทั้งนักเตะจะเจ็บจริง หรือไม่ มีเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ที่ผ่านมายังเป็นเพียงเกมอุ่นเครื่อง เตรียมความพร้อม หรือจะเรียกอะไรก็ตาม ก็เป็นเพียงทางผ่านเพื่อมาสู่การแข่งขันเป็นทางการอย่างฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกนี่แหละ
คงจดจำกันได้ดี 2 นัดหลังสุด ในการไปทัวร์ยุโรป ซึ่งแม้จะไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดอย่างที่รู้กัน แต่การไปในฐานะทีมใหญ่ในวงฟีฟ่าเดย์ ตามกติกาสากลในโลกแห่งฟุตบอลแพ้จอร์เจีย 0–8 เจ็บช้ำกันไปถ้วนทั่วทุกตัวคน ก่อนจะมาเสมอเอสโตเนีย 1–1 รู้สึกกันเช่นไร นั่นก็เป็นเพียงเกมทางผ่าน
การคัดบอลโลกที่กำลังจะมาถึงนี้ แม้สภาพการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาคม ทีมงาน หรือระยะเวลาในการเก็บตัวฝึกซ้อม ก็อาจจะไม่แตกต่างจากเดิมนัก แต่สิ่งที่ต่างชัดเจนนั่นคือนักเตะ ซึ่งถือว่าคิดว่าดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ตอนนี้
แน่นอนตัวนักเตะที่ต่างนี้ย่อมเป็นเรื่องบวก และย่อมเพิ่มความคาดหวังเข้าไปด้วย
ส่วนเรื่องบวกที่เพิ่มขึ้นมานี้จะนำไปสู่ความสำเร็จอย่างที่คาดหวังหรือไม่ เป็นสิ่งที่ท้าทาย
ไม่ใช่ท้าทายเพียง “ผล” ของการแข่งขัน
แต่ยังท้าทาย และส่งตรงถึงสมาคมกีฬาฟุตบอล และทีมงาน ด้วยข้อต่างคือ ตัวนักเตะเท่านั้น
ไม่มีอะไรให้เอ่ยอ้างกันได้เลย!
ถึงเวลาพิสูจน์ของจริง ที่จะชี้นำ และบ่งบอกถึงอนาคตจริงๆ โดยมีแฟนบอลเป็นผู้ตัดสิน!!!
16 พ.ย. รอเชียร์ฟุตบอลชาติไทย กับภารกิจชี้ชะตาอันสำคัญนี้ จะไปที่สนาม หรือชมถ่ายทอดสดผ่านจอไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ก็ตามสะดวก เริ่มเตะ 19.30 น. ต้องดูให้เห็นด้วยตาตัวเอง...
“เบี้ยหงาย”