เบี้ยหงาย
ผุดขึ้นมาเป็นประเด็นอีกครั้ง โครงการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้นายกเมืองพัทยาคนใหม่ ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ โดยในส่วนที่เป็น ปัญหาคือสนามฟุตบอล ที่มีสภาพเหมือนถูกปล่อยทิ้งร้าง และมีสภาพทรุดโทรม ก่อสร้างไม่เสร็จ จนต้องมีการออกมาแจกแจงถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนที่เสร็จและใช้งานไปแล้วเป็นอาคารยิมเนเซียมขนาดใหญ่
โครงการนี้ตามแผนงานแต่แรก จะประกอบด้วย สนามฟุตบอลขนาด 20,000 ที่นั่ง, สระว่ายน้ำมาตรฐาน 50 เมตร จำนวน 8 ลู่ พร้อมหลังคา, สนามเทนนิส, สนามบาสเกตบอล และสนามฝึกซ้อมอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ชัดเจนว่างบประมาณทั้งหมดเท่าไหร่ มาจากส่วนไหนบ้าง
สำหรับสนามฟุตบอลเจ้าปัญหาดังกล่าว ใช้งบประมาณกว่า 774 ล้านบาท เริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งในเฟส 1 สร้างสนามฟุตบอล ปี 2551-2553 งบ 89.5 ล้านบาท เฟส 2 ปี 2557-2560 สร้างอัฒจันทร์ 5,000 ที่นั่ง 537 ล้านบาท และเฟส 3 สร้างส่วนต่อ หลังคาอัฒจันทร์ 2,500 ที่นั่ง พร้อมระบบระบายน้ำ 398 ล้าน ซึ่งชี้ว่าปัญหาเกิดขึ้นเพราะผู้รับเหมามีการทิ้งงานไป หลังเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้วส่วนหนึ่ง 143.2 ล้านบาท
“นายกปรเมศวร์” ระบุถึงการแก้ไขปัญหา ซึ่งเมืองพัทยาจะเสนอของบเพิ่มเติมเพื่อทำต่อให้เสร็จ เป็นงบผูกพัน 3 ปี 2565-2567 จำนวน 249 ล้านบาท และจะใช้เวลาราว 2 ปีเศษ คาดว่าจะเสร็จในปี 2568
ไม่เท่านั้นยังมีโครงการต่อเนื่อง อาทิการปรับปรุงถนนทางเข้าสนาม ซึ่งมีมูลค่าโครงการอีก 128 ล้านบาท
โครงการนี้นับว่ามีความสำคัญ มีการอ้างอิง และถูกนำไปรวมอยู่ในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาพใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งในแผนการพลิกโฉมเมืองพัทยา สู่ NEO PATTAYA ยกระดับเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวอีอีซี นำเสนอในที่ประชุม กบอ. หรือคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ในส่วนของกีฬา สนามฟุตบอลแห่งนี้ซึ่งมีลู่วิ่งอยู่ด้วย ก็มีการเตรียมการไว้สำหรับการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชีย ในปี 2566 ระหว่างวันที่ 12-16 ก.ค.2566 ซึ่งได้ระบุไว้ว่าจะจัดที่เมืองพัทยาแห่งนี้
ดูตามเวลาที่คาดว่าจะแล้วเสร็จนั้น คงไม่ทันแน่นอน!
ไม่เท่านั้นคงจำกันได้ว่า โปรเจกต์ชวนฝัน (หวาน) กับการที่ชาติอาเซียนจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2034 ซึ่งท่านผู้นำ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศให้การสนับสนุน และไทยเราก็เตรียมการในเรื่องของสนาม โดย กกท.ก็มีแผนจะปรับปรุงสนามราชมังคลากีฬาสถาน เพิ่มความจุเป็น 60,000 ที่นั่ง และมีแผนจะสร้างสนามกีฬาแห่งชาติขนาดใหญ่ ที่ จ.ชลบุรี สนามฟุตบอลจะถึง 80,000 ที่นั่งสามารถใช้ทำพิธีเปิด-ปิดได้เลย
แผนสนาม 8 หมื่นคนนั้น หมายถึงสนามที่เป็นปัญหาอยู่นี้หรือไม่ ที่จะปรับขนาดขึ้นหรือจะสร้างใหม่กันอีก ถ้าหากจะปรับสนามนี้ จะต้องปรับแบบเปลี่ยนโฉมเพิ่มงบกันอีกขนาดไหน
แค่ของเดิมก็ยังเป็นปัญหาคาราคาซังมาร่วมๆ 15 ปีแล้ว!
ก็น่าแปลกที่เรื่องทำนองนี้ ที่พบเห็นอยู่ทั่วไป พอเกิดขึ้นก็มีแต่แก้ปัญหา หางบเพิ่ม ทำใหม่ ทำต่อ เอาผิดได้อย่างเก่งก็เพียงผู้รับเหมาที่ปลายทาง แต่ต้นเรื่องกระบวนการต่างๆซึ่งต้องมีคนในแต่ละขั้นตอน ที่ทำให้เกิดขึ้นและดำเนินไป ก็ยังเป็นปกติสุข คิดโครงการใหม่ทำกันต่อ
เมื่อระบบตรวจสอบง่อยเปลี้ย ผู้รับผิดชอบไร้สำนึก ไร้ประสิทธิภาพ วงจรอย่างนี้ก็ไม่มีวัน หมดไป...
“เบี้ยหงาย”