หน้าแรกแกลเลอรี่

ถึงเวลา...ไปบอลโลก

บี บางปะกง

4 ส.ค. 2565 05:03 น.

วันก่อน “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทย “หมายเลข 1” ตลอดกาล โทร.มาให้กำลังใจ ก่อนที่ผมจะเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ทำบายพาสหัวใจที่โรงพยาบาลเพชรเวชในสัปดาห์หน้า

พี่ตุ๊กอวยพรไม่เหมือนใคร เพราะแกบอกให้ผมหายป่วยคัมแบ็กกลับมาเร็วๆ เพื่อที่จะได้ลุ้นทีมชาติไทย ตีตั๋วไปลุยรอบสุดท้าย ให้ได้ในศึกเวิลด์คัพ 2026 ในอีก 4 ปีข้างหน้า

แกบอกว่าการที่ฟีฟ่าเพิ่มโควตาให้ทวีปเอเชียเป็น 8 ทีมครึ่งนั้น คือโอกาสทองของทีมชาติไทย ที่จะสร้างฝันในการตีตั๋วไปบอลโลกให้เป็นความจริง ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป!!

แต่มีเงื่อนไขว่าเราต้องเริ่มเตรียมทีมกันตั้งแต่วันนี้ ห้ามชักช้าอย่างเด็ดขาด เพราะไทยแลนด์ไม่ใช่ชาติเดียวที่หวัง แต่คู่แข่งชาติอื่นเขาก็หวังอยากไปบอลโลกเช่นเดียวกับเราทั้งนั้น

ปิยะพงษ์ ประกาศเสียงดังฟังชัดอย่างมั่นใจว่า เอเชียได้โควตาขนาดนี้แล้ว ใครที่ เข้ามาทำทีมชาตินับจากนี้ต้องไม่มีเป้าหมายอื่น นอกจากต้องพาช้างศึกไปลุยเวิลด์คัพรอบสุดท้าย สถานเดียว

ถ้าสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย หาใครทำไม่ได้ แกอาสาทำให้เอง ซึ่งคงไม่ใช่บทบาทของโค้ชหรือกุนซือแต่อย่างใด

แต่ถ้าได้มีโอกาสทำหน้าที่ผู้บริหารทีมชาติหรือประธานฝ่ายเทคนิคที่มีอำนาจเต็มจะแฮปปี้เป็นที่สุด

โดยพร้อมเดิมพันศักดิ์ศรีของตัวเองที่อยู่กับฟุตบอลไทยมาทั้งชีวิต ว่าถ้าทำไม่สำเร็จ ก็พร้อมจะรับผิดชอบหันหลังให้กับทีมชาติโดยไม่กลับมาข้องแวะอีกเลย

เพราะแกมั่นใจว่าศักยภาพของนักเตะทีมชาติในรุ่นนี้ มีส่วนผสมดีพอที่จะเอาธงไตรรงค์ไปโบกสะบัดในฟุตบอลโลก...อย่างแน่นอน

ทั้งทีมชาติไทยชุดยู 23 และทีมช้างศึกชุดใหญ่ แต่ละตำแหน่งล้วนแต่ลงตัวมีอนาคตทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, กฤษดา กาแมน, เบนจามิน เดวิส, นิโคลัส มิคเกลสัน

เมื่อไปรวมกับรุ่นพี่ ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, สุภโชค สารชาติ, วีระเทพ ป้อมพันธ์, ฟิลลิป โรลเลอร์, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, สารัช อยู่เย็น ฯลฯ

รวมทั้งตัวเก๋า อย่าง “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่จะเป็นอะไหล่ชั้นดีคอยซัพพอร์ตน้องๆ พี่ตุ๊กบอกเลยว่าเหลือเฟือกับการเตรียมทีมลุยคัดบอลโลก 2026

โดยสิ่งที่เราต้องมีนับจากนี้คือรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน บวกกับร่างกายที่แข็งโป๊กทั่วแผ่นพร้อมเผชิญศึกหนักในทุกเกมของรอบคัดเลือกไม่ว่าจะเป็นนัดเหย้าหรือนัดเยือน

ส่วนกุนซือที่จะเข้ามาทำทีม แกยังมองว่า โค้ชเกาหลีน่าจะเหมาะที่สุด เพราะตอบโจทย์ในสิ่งที่นักบอลไทยขาดคือเรื่องของความฟิต
ที่เป็นปัญหามาช้านาน

แต่ถ้าเป็นโค้ชไทยที่มือถึงมีแค่ 2 คน คือ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กับ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ

ขณะที่กุนซือคนปัจจุบัน อย่าง มาโน โพลกิง ก็ถือเป็นโค้ชที่ดี...

แต่ยังดีไม่พอที่จะทำให้บอลไทยไปถึงฝั่งฝัน...

อย่างที่ทุกคนอยากจะเห็นกัน!!!

บี บางปะกง