ให้พังกันไปข้าง

“ใครไม่อายแต่ผมอาย” วลีนี้จำได้ไหมครับว่าเป็นของใครฟังดูคุ้นๆ และความหมายดีทีเดียว เพราะพูดในช่วงที่ฟุตบอลทีมชาติไทยพ่ายแพ้ต่อทีมชาติญี่ปุ่นในเกม คัดบอลโลก เมื่อหลายปีมาแล้ว

คงไม่ต้องเดาว่าใครบอกเลย “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมลูกหนังพูดไว้อย่างหนักแน่นเมื่อตอนที่เข้ามานั่งบริหารงานเก้าอี้สมาคมฟุตบอลไทย ไม่ใช่แค่นั้นยังบอกอีกว่าถ้าผมทำทีมล้มเหลวผมคงไม่กล้าสู้หน้า “จะลาออกอย่างแน่นอน”

ถึงทุกวันนี้ผมยังไม่เห็นคำพูดหรือความคิดของ “บิ๊กอ๊อด” ที่จะประกาศลาออกเลยสักครั้งเดียว เพราะจากผลงานที่ผ่านมาของทีมช้างศึกแทบจะทุกชุดยังสะกดคำว่า “ประสบความสำเร็จไม่มีเลย”

เอาแค่ “กีฬาซีเกมส์” ซึ่งเป็นความหวังของคนไทยในระดับอาเซียนที่เมื่อก่อนต่างพูดกันจนเบื่อว่าแชมป์ตลอด เรายังไม่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้ทั้งทีมชายและทีมหญิง แล้วแบบนี้ยังกล้าสู้คนแฟนบอลเพื่อที่จะนั่งบริหารงานแบบสบายใจอีกหรือ

อย่างที่บอกหลายครั้งเมื่อก่อนชาติในอาเซียนเมื่อจับสลากอยู่สายเดียวกับไทยเป็นต้องร้อง เพราะเข็ดขยาดโอกาสที่จะแพ้มีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ทุกวันนี้ใครก็อยากอยู่สายเดียวกับไทยเพราะดูแล้ว “สมันน้อย” ดีๆนี่เอง

ไม่ใช่จะมาซ้ำเติมเพราะผมเองก็เป็นคนไทยและอยากเห็นบอลไทยไปบอลโลกเหมือนกับทุกคน แต่เห็นการบริหารงานไม่ได้เรื่องมันรู้สึกย้อนแย้งคำพูดยังไงไม่รู้

โดยเฉพาะคำว่า “แฟร์” ที่ “บิ๊กอ๊อด” พูดอยู่ตลอด แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นเหมือนคำพูดเลยแม้แต่น้อย อย่างการแข่งขันไทยลีกที่ผ่านมาก็มีให้เห็นหลายกรณีไม่ว่าสโมสรไหนที่โดนกระทำจะร้องจนปากเปียกปากแฉะก็เหมือนตักน้ำรดหัวตอยังไงยังงั้น

หนำซ้ำล่าสุดทีมช้างศึก 19 ปีก็พ่ายให้กับทีมลาว 0-2 ร่วงตกรอบตัดเชือก “ฟุตบอลยู 19 ปีชิงแชมป์อาเซียน” ที่แดนอิเหนา บอกเลยความพ่ายแพ้ของทีมช้างศึก 19 ปีไทยกลายเป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว

ในโลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถล่มกันยับจากผลงานที่ห่วยแตกโดยเฉพาะการบริหารงานของ “บิ๊กอ๊อด” ที่นับวันจะทำให้ทีมชาติตกต่ำดิ่งลงเหวอย่างชัดเจนหลายคนหมดศรัทธาถึงการบริหารงานของคณะกรรมการชุดนี้

ไม่เท่านั้นชัยชนะของลาวที่มีเหนือไทยในทัวร์นาเมนต์นี้ก็เป็นวาระแห่งชาติของลาวเช่นกันถึงขนาด ส.ส.ของลาว มีการนำเข้าสภาเพื่ออภิปรายถึงผลงานของทีม 19 ปีอีกด้วย

เอ! ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ตกลงแล้วลาวดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาหรือไทยมาตรฐานต่ำลง

ไม่ผิดหรอกครับเรื่องกีฬามีแพ้ชนะล้วนต้องเกิดกับทุกทีม แต่ลองนับนิ้วดูตั้งแต่ “บิ๊กอ๊อด” เข้ามาบริหารงานในสมาคมลูกหนังกี่ปีแล้ว ผลงานทีมชาติไทยรวมถึงลีกสูงสุดของไทยดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน มูลค่าต่างๆที่เคยดีต่างลดลงมลายสูญสิ้นในยุคนี้หมดแล้ว

เอาแค่ปัญหาโควตาเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ที่เป็นประเด็นก็ยังเคลียร์ไม่จบตัดสินแบบไม่สนใจใครหรือเห็นใจสโมสรเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ทั้งที่เรื่องนี้หาก “บิ๊กอ๊อด” เป็นคนที่มีหัวใจรักเรื่องของกีฬาโดยเฉพาะเกมลูกหนังจะเข้าใจหัวอกบรรดาสโมสรที่อกหักมากกว่านี้

ขนาด “หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล” ยังโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “เมื่อไหร่นายกฯฟุตบอลไทยจะลาออกเสียที” ฟุตบอลทีมชาติไทยตกต่ำมากที่มีนายกชื่อ “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง”

ต้องดูกันต่อไปว่ากระแสถาโถมมากมายขนาดนี้ “บิ๊กอ๊อด” จะดึงดันนั่งเก้าอี้สมาคมลูกหนังด้วยความภาคภูมิใจอย่างเบิกบานอารมณ์อีกหรือไม่

เชื่อผมเถอะครับให้หนักกว่านี้ “บิ๊กอ๊อด” ก็ไม่ลาออก คงรอให้พังกันไปข้าง

กลุ้มใจแทนฟุตบอลไทยจริงๆครับ.

โจโจ้ซัง