หน้าแรกแกลเลอรี่

แข้งไทยร้อยล้าน (อัป)

บี บางปะกง

11 ม.ค. 2565 05:12 น.

ข่าวใหญ่บอลไทยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีประเด็นไหนจะฮอตเท่าข่าวดีของ “กัปตันเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่บรรลุข้อตกลงในการย้ายทีมครั้งสำคัญ (ที่สุด) ในชีวิตค้าแข้ง

จากสโมสร “ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร” ยกระดับไปอยู่กับทีมแชมป์เจลีกญี่ปุ่นในยุคปัจจุบัน อย่าง “คาวาซากิ ฟรอนตาเล”

นี่คือความก้าวหน้าอีกระดับในอาชีพพ่อค้าแข้งของ “เมสซี เจ” ที่ทุกคนสัมผัสได้อย่างแท้จริงครับ!!

จากก้าวแรกบนแผ่นดินซามูไร ในปี 2017 ที่เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดโอกาสให้ซัปโปโรทดลองยืมตัวเพลย์เมกเกอร์ร่างจิ๋วทีมชาติไทยไปเล่นให้ ด้วยมูลค่าเพียง 17-18 ล้านบาทเท่านั้น

ซึ่งตอนแรกก็เชื่อเลยว่า ทีมน้องใหม่เจลีกในขณะนั้นหวังจะดึงเจ้าตัวไปอยู่กับทีมเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาด ที่จะดึงฐานแฟนบอลจากเมืองไทยและในย่านอาเซียนให้มานิยมบอลลีกแดนปลาดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าจะคาดหวังให้เจ้าตัวมาเป็นแกนหลักในสนาม

แต่เอาไปเอามา “ชนาคุง” กลับกลายเป็น ซุปเปอร์สตาร์ของทีมในเวลาอันรวดเร็ว จนทำให้ซัปโปโรต้องเซ็นสัญญาถาวรกับเขาด้วยค่าตัวกว่า 80 ล้านบาท

ก่อนที่เจ้าตัวจะตอบแทนต้นสังกัดอย่างเกินคุ้มค่า ด้วยการรับบทเป็น “เดอะแบก” ที่ทีมแทบจะขาดไปไม่ได้เลย ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

จนเดี๋ยวนี้แฟนบอลญี่ปุ่นไม่ได้มองว่าแข้งอาเซียนตัวเล็กๆอย่างชนาธิปจะมีประโยชน์เพียงแค่ตัวเชื่อมในการช่วยโปรโมตบอลเจลีกในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น

เพราะเขาได้กลายเป็นตัวจักรสำคัญที่จะกำหนดผลแพ้ชนะของทีมในแต่ละนัดที่ลงสนามกันเลยทีเดียว

สื่อดังแดนอาทิตย์อุทัยไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ หรือสื่อโซเชียล ต่างประโคมข่าวใหญ่การทุ่มซื้อตัวกัปตันทีมช้างศึกในครั้งนี้กันอย่างครึกโครม

เพราะสนนราคาที่ฟรอนตาเลตกลงที่จะจ่ายให้ซัปโปโรมันเป็นตัวเลขสูงลิ่ว 3–3.5 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยก็ตกประมาณ 120–130 ล้านบาท โน่นเลยทีเดียว!!

สื่อรายงานด้วยว่านี่เป็นการจ่ายเงินซื้อตัวผู้เล่นระหว่างสโมสรภายในประเทศที่สูงที่สุดในรอบ 30 ปีของเจลีก

ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามันกำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ กับนักเตะ“เมด อิน ไทยแลนด์”แดนสยามบ้านเราที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกไว้ว่า “ชนาธิป สรงกระสินธ์” คือนักฟุตบอลคนแรกของเมืองไทย ที่มีค่าตัวแพงระยับเกินร้อยล้านอัปขึ้นไป

เรียกว่าเป็นตำนานบทใหม่ของวงการลูกหนังบ้านเรา ที่จะสร้างแรงบันดาลใจมหาศาลให้กับนักเตะเยาวชนคนรุ่นหลังได้เจริญรอยตามเส้นทางที่แข้งรุ่นพี่ได้โรยไว้ให้ทุกคนได้เห็นกับตา

สิ่งหนึ่งที่ผมต้องขอชมเชย “เจ้าเจ” ด้วยใจจริง นอกจากเรื่องของการพัฒนาฝีเท้าเล่นฟุตบอลอันก้าวกระโดดแล้ว

ก็คือ “ความกตัญญูรู้คุณ” ที่ฝังอยู่ในจิตสำนึกอันดีงามของเจ้าตัวตลอดเวลา

เจก็ยังเป็นเจคนเดิม ที่ไม่เคยลืมตัว หลงละเลิงไปกับชื่อเสียง เงินทอง อันหอมฟุ้ง

สังเกตได้จากทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์สื่อเจ้าตัวจะเอ่ยถึง “ลุงระวิ โหลทอง” บิ๊กบอสกิเลนผยอง เป็นชื่อแรกอยู่เสมอ

ด้วยสำนึกในบุญคุณของผู้ที่เปิดประตูบานแรกให้เขาได้มีโอกาสมาค้าแข้งในเจลีกอย่างเต็มตัว

ไม่แปลกใจเลยกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในคราวนี้ของ “เจ-ชนาธิป”

“คนที่รู้คุณคน” เป็นที่ตั้ง มักประสบพบเจอแต่ “ความเจริญรุ่งเรือง” จริงๆครับ!!!

บี บางปะกง