ชายแดนใต้สู่ “อ็อกซ์ฟอร์ด”

หลายปีก่อน ผมและกลุ่มผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้เปิดหูเปิดตาไปดูอะคาเดมีฟุตบอลอังกฤษแบบจริงๆจังๆ ดูตรอกซอกซอยทุกมุมสนามซ้อมของทีมเยาวชน ทีมสำรอง จนถึงชุดใหญ่ของ สโมสรเรดดิ้ง ซึ่งถือเป็นอะคาเดมีชั้นนำของอังกฤษ ช่วงที่คนไทย “บิ๊กเสือ” สัมฤทธิ์ ธนะกาญจนสุทธิ์ เป็นซีอีโอในตอนนั้น

จึงได้เข้าใจคำว่าระเบียบวินัยของนักฟุตบอลอาชีพแบบอังกฤษแท้ๆเป็นยังไง ทั้งระบบแบล็กบูต นักเตะเยาวชนใส่เฉพาะสตั๊ดสีดำ ขณะซ้อมใน 1 ชม. ห้ามพักกินน้ำ ไม่ว่าจะหนาวจัดหรือร้อนจัด คุณต้องลงฝึกซ้อม กินอาหารต้องตรงเวลา และเป็นโภชนาการของสโมสรตั้งแต่เด็ก การตรงต่อเวลา การห้ามรับรายได้ก่อนเซ็นสัญญา และอื่นๆอีกมากมาย

ถึงได้รู้ว่าทำไมสโมสรอังกฤษ ถึงเก่งที่สุดในโลก เพราะที่นั่นมีเด็กจากทั่วทุกมุมโลกจาก จาเมกา ชิลี แอฟริกา เกาหลี อเมริกา มะรุมมะตุ้มมาฝึกฟุตบอล ดังนั้นเด็กไทยที่ได้ไปฝึกที่อังกฤษจะนับได้ว่าเป็นเด็กที่มีโอกาสและมีโชควาสนาดีมากๆสำหรับการก้าวต่อไปในวิถีนักเตะอาชีพ

5 ปีต่อมา ก็ถือว่าโชคดีที่ผมได้เข้าไปทำงานกับ คณะกรรมาธิการกีฬาวุฒิสภา ได้ทำงานใกล้ชิดกับ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ประธานกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา อดีต รมช.ศึกษาธิการ ซึ่งได้ทำ โครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาชายแดนใต้ กับ สพฐ.เอาไว้ และปัจจุบันก็สานต่อโครงการฟุตบอล ใช้สโมสร ยังสิงห์ หาดใหญ่ ยูไนเต็ด รองรับเด็กโครงการหลังจบ ม.6 ที่กระจัดกระจายเอาไว้

หลังจากทำสโมสรไทยลีก 3 เรียบร้อย ก้าวต่อไป ก็คือการสานฝันจริงๆให้นักเตะ ด้วยการคัดตัวเด็กจังหวัดชายแดนใต้หัวกะทิ 12 โรงเรียน ได้แก่ ร.ร.สุวรรณไพบูลย์ จ.ปัตตานี, ร.ร.โพธิ์คีรีราช จ.ปัตตานี, ร.ร.สวนพระยาวิทยา จ.นราธิวาส, ร.ร.ร่มเกล้า จ.นราธิวาส, ร.ร.บันนังสตาวิทยา จ.ยะลา, ร.ร.รือเสาะชนูปถัมภ์ จ.นราธิวาส, ร.ร.ทุ่งยางแดงพิทยาคม จ.ปัตตานี, ร.ร.ละงูพิทยาคม จ.สตูล, ร.ร.เฉลิมพระเกียรติ จ.ยะลา, ร.ร.มัธยมสุไหงปาดี จ.นราธิวาส และ ร.ร.นวมินทราชูทิศ ทักษิณ จ.สงขลา

ทางผมกับ ดร.เหลือง จุฑา ติงศภัทิย์ ก็เป็นสองกรรมการทำการคัดเลือกผู้เล่นยอดเยี่ยมจำนวน 11 คน นำไปฝึกฝีเท้ากับ สโมสรอ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ในลีกวัน ของอังกฤษ ซึ่งมี บิ๊กเสือ สัมฤทธิ์ อดีตซีอีโอเรดดิ้งคนเดิม และ เป็นประธานสโมสร ปัจจุบัน ให้การสนับสนุนร่วมกับสโมสรยังสิงห์หาดใหญ่ ยูไนเต็ดเป็นเวลา 2 เดือน และ จะเดินทางไปอังกฤษ เดือนกุมภาพันธ์ 2565

การร่วมมือร่วมใจของผู้ใหญ่ที่รักในฟุตบอลจริงจัง ทั้งฝั่งของโครงการสานฝันฯ และฝั่งอ็อกซ์ฟอร์ดของบิ๊กเสือ คนที่ทำฟุตบอลไม่ได้หวังร่ำรวยแต่หวังจะให้โอกาสเด็กไทยให้ทำฝันเป็นจริงได้มากที่สุด สิ่งเหล่านี้จึงเกิดขึ้น

ผมหวังใจว่าโมเดลนี้ มันไม่ได้เป็นแค่โอกาสของเด็กใต้แบบผม หรือเด็กจากเลสเตอร์เท่านั้น แต่อนาคต เด็กเหนือ เด็กกลาง ตะวันออก อีสาน ก็จะมีโอกาสแบบนี้เช่นกัน หากผู้ใหญ่ทุกคน พยายามคิดสรรค์สร้างโอกาสสานฝันอย่างเป็นรูปธรรม และลงมือทำอย่างจริงจัง...

วันกล้า ขวัญแก้ว
นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์

OOOOOOOO

บอลไทยจะก้าวไกลไปข้างหน้า ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันครับ

ในฐานะสื่อตัวเล็กๆคนนึงที่อยู่วงการนี้มานาน ขอสนับสนุนทุกโครงการ

ที่เปิดโอกาสให้เด็กไทย “โกอินเตอร์” ครับ!!!

บี บางปะกง