พาวเวอร์บอมบ์
ความกดดัน “สูง” เวลาฝึกซ้อม “น้อย” คือสิ่งที่ทัพ “ช้างศึก” ชุดสู้ศึก ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบคัดเลือก ภารกิจแรกอย่างเป็นทางการที่ “มาดามแป้ง” ผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ต้องเผชิญ
แต่เหนือสิ่งอื่นใด “มาดามแป้ง”-สตาฟฟ์โค้ช และนักฟุตบอลต้องทำคือ “การปรับตัว” ให้เข้ากับทุกสถานการณ์เพื่อทำเป้าหมายที่วางไว้ให้สำเร็จ
ทีมชาติไทยชุดนี้มีเวลาฝึกซ้อมร่วมกันเพียงไม่กี่วันก่อนการแข่งขันจริง ภายใต้สภาพอากาศที่เย็นเยือก อีกทั้งอากาศยังมีความเบาบาง เพราะประเทศมองโกเลียตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากพอสมควร ในฐานะผู้จัดการทีมที่ต้องดูแลงานหลังบ้านให้ดีที่สุด “มาดามแป้ง” เพื่อให้ทีมพร้อมทั้งในและนอกสนาม
แน่นอนว่าคู่แข่งร่วมกลุ่ม “ช้างศึก ยู-23” ในศึกชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือกหนนี้ล้วนมีเขี้ยวเล็บที่พร้อมสยบคู่แข่งทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นมองโกเลีย (เจ้าภาพ) ที่คุ้นเคยกับสภาพอากาศและสนามหญ้าเทียม อีกทั้งทีมชุดนี้ยังนำโดยแข้งทีมชาติชุดใหญ่อย่าง กันบายาร์ กันโบลด์, บัลจิลยาม บัทโบลด์ และแนวรับกัปตันทีมอย่างมง-เกอกิล ซึ่งเกมดังกล่าว ไทยทำได้เพียงแค่เสมอ 1-1 อีกทั้ง 2 แข้งคนสำคัญอย่างวันชาติ ชูสงค์ และเบนจามิน เดวิส ยังต้องบาดเจ็บจากเกมนี้อีกด้วย
“ไม่มีความสำเร็จใดเกิดขึ้นได้หากไม่มีความพยายาม” เช่นกันกับโลกลูกหนัง...ที่ทีมชาติไทยต่างไม่ย่อท้อ
ทุกคนทำงานในบทบาทที่ได้รับอย่างหนัก เพราะทุกคนรู้ดีว่าทุกเกมที่เหลือไม่มีเกมไหนที่ง่าย กระทั่งเกมพบ สปป.ลาว ทีมชาติไทย วิ่งสู้ฟัด พยายามทำเกมรุกตามรูปแบบที่ซ้อมกันมาให้ดีที่สุด กระทั่งปลดล็อกคว้าชัยชนะด้วยสกอร์ 3-0 จากฝีเท้าของธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, จักรกริช พาละพล และกรวิชญ์ ทะสา ที่แบ่งกันซัดคนละประตู ส่งผลให้ “ช้างศึก” รับโบนัสอัดฉีดจาก “มาดามแป้ง” 1 ล้านบาททันที
“สำหรับเกมกับลาวมันเป็นการปลดล็อกให้ทุกคน เพราะเรากดดันมาตั้งแต่เกมแรก ด้วยสภาพทั้งสนาม อากาศ เราเก็บสามแต้มได้ถือว่าสุดยอดมาก” มาดามแป้งเผยหลังคว้าชัยเหนือ สปป.ลาว
เกมสุดท้ายซึ่งต้องพบกับคู่แข่งที่หินที่สุดอย่าง มาเลเซีย แม้จะทำตามเป้าหมายคือการคว้าชัยชนะไม่ได้ เพราะเกมดังกล่าวจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 ทว่ายังดีพอที่จะเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด เป็น 1 ใน 4 ทีม จาก 10 กลุ่ม พร้อมรับอัดฉีดเพิ่มเติมจาก “มาดามแป้ง” อีก 2 ล้านบาท
“เราได้เห็นบรรยากาศ อุปสรรค อะไรที่จะต้องก้าวต่อไป ทำให้เกิดสถานการณ์วิน-วิน ทุกฝ่าย ยังคงเชื่อว่าถ้าจะพัฒนาทีมชาติเราสามารถสู้กับชาติอื่นๆในอาเซียนได้ถ้าเราตั้งใจจริง เพราะเราเคยเป็นที่หนึ่ง แต่จะไม่ประมาทใคร เพราะทุกทีม
อยากเป็นหนึ่งเช่นกัน”
ปฐมบทแรกในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หนนี้ต้องพบเจออุปสรรคไม่รู้เท่าไร แต่สุดท้ายด้วยความมุ่งมั่นของทุกคน ทำให้ “ช้างศึกยู-23” เอาชนะทุกขวากหนามที่เผชิญได้สำเร็จ
ขอบคุณทุกแรงเชียร์ที่ส่งมา
แล้วเจอกันที่ “อุซเบกิสถาน”
0000000
บทความข้างบนเป็นบทความจากทีมงานของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ส่งมาให้เมื่อครั้งเสร็จภารกิจในฟุตบอลยู-23 ชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือก
อ่านดูแล้วตีความเอา เชื่อว่าแฟนบอลคงจะเข้าใจหัวอกของ “แม่แป้ง” เป็นอย่างดี.
พาวเวอร์บอมบ์