หน้าแรกแกลเลอรี่

เชื่อแป้ง

บี บางปะกง

30 ส.ค. 2564 05:01 น.

ภายหลังที่ผลงานทีมช้างศึกล้มเหลวไม่เป็นท่าจากการทำศึกในหลายรายการที่ผ่านมาจนนำมาสู่วิกฤติศรัทธาจากแฟนบอลที่นับวันจะมากขึ้น และหากปล่อยต่อไป ผลกระทบย่อมจะเกิดกับผู้บริหาร โดยเฉพาะนายใหญ่ของสมาคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จะด้วยจากสภาวการณ์ดังกล่าวหรือจะด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่อาจจะหยั่งลึกได้ เมื่อเกิดปรากฏการณ์ที่ทำให้ผู้เกี่ยวข้องดวงตาอาจจะเห็นธรรม หรือแก่นแท้ของการบริหารจัดการด้วยการรื้อฟื้นตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากยกเลิกไปก่อนหน้านี้

และแล้วตำแหน่งผู้จัดการทีมช้างศึกคนใหม่ก็มีชื่อของนางฟ้าลูกหนัง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ปรากฏขึ้นอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน และต่อกรณีนี้ต้องชื่นชมผู้อยู่เบื้องหลังของการดีลหรือการผลักดันจนนำมาซึ่งความสำเร็จ

เหนือสิ่งอื่นใดการก้าวเข้ามารับเผือกร้อนหรือเป็นหนังหน้าไฟในตำแหน่งผู้จัดการทีมยุคที่ช้างศึกประสบกับปัญหาวิกฤติศรัทธา เชื่อว่าหญิงเหล็กจอมทุ่มเทผู้นี้คงจะดีดลูกคิดรางแก้วรวมทั้งวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งภายใต้การผนึกพลังของทีมงานอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าคุ้มกับชื่อเสียงที่สะสมมาก่อนหน้านี้หรือไม่

ที่สำคัญด้วยบุคลิกส่วนตัวที่มาดามแป้งเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นอุทิศตนเพื่อสังคมและทุ่มเทให้กับวงการลูกหนังมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังใจถึงพึ่งได้ ภายใต้ทีมงานคุณภาพตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้น่าจะเหมาะกับเธอในยามนี้มากที่สุดก็ว่าได้

อย่างไรก็ตาม การที่อดีตผู้จัดการทีมชบาแก้วผู้ซึ่งเคยสร้างผลงานด้วยการนำนักเตะแม่เนื้อนิ่มทีมชาติไทยไปสู้ศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกมาแล้วถึง 2 สมัย เข้ามารับหน้าเสื่อในครั้งนี้ ส่งผลให้มีผู้คนในวงการลูกหนังตลอดจนแฟนบอลและ สื่อมวลชนต่างออกมาแสดงทัศนะไปต่างๆ นานาทั้งสนับสนุนในหลักคิด ตลอดจนเห็นใจผสมผสานกันไป

“บิ๊กหอย” ธวัชชัย สัจจกุล อดีตผู้จัดการทีมจอมทุ่มเทเป็นหนึ่งในผู้ที่เห็นชอบและสนับสนุนให้ “มาดามแป้ง” เข้ามารับหน้าเสื่อในตำแหน่งนี้และเชื่อมั่นว่านักธุรกิจสาวที่ประสบความสำเร็จในการบริหารกิจการของตนเองมีต้นทุนทางสังคมที่อาจจะเหนือกว่าชายอกสามศอกเสียด้วยซ้ำ ประกอบกับมีหน้าตักหนาน่าจะนำช้างศึกฝ่าวิกฤติไปได้

วลีหรือประโยคเด็ดที่ดูเหมือนว่าบิ๊กหอยจะเชื่อมั่นต่อผู้จัดการสาวรายนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการนำบอลไทยไปบอลโลก ซึ่งความตอนหนึ่งมีอยู่ว่า

“ถ้าใครจะเป็นผู้จัดการทีมที่พาไทยไปบอลโลกคนแรกผมว่าต้องเป็นแป้ง ถ้าจะไปต้องไปยุคนี้ ถ้าแป้งทำไม่ได้ก็ยากแล้ว”

ดังนั้น จากนี้ไปเชื่อว่านางฟ้าลูกหนังพร้อมทีมงานคงจะต้องทำการบ้านเพื่อตอบโจทย์หรือประเด็นปัญหาที่สะสมจนกลายเป็นดินพอกหางหมูมาอย่างยาวนาน

หนึ่งในโจทย์หรือการบ้านข้อแรกที่ผู้จัดการสาวรายนี้ดำเนินการและสอดคล้องกับผลการสำรวจของแฟนลูกหนังผ่าน KBU SPORT POLL ของ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เมื่อเร็วๆนี้ เรื่อง “ช้างศึกโค้ชไทยหรือโค้ชนอกในมุมมองของแฟนลูกหนัง” คือการเรียกใช้โค้ชไทยในการทำทีมชุด 23 ปี

ประกอบกับการนำ ทีมช้างศึกชุด 23 ปีไปฟาดแข้งในศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกที่ประเทศมองโกเลีย ระหว่างวันที่ 27–31ตุลาคมนี้ ภายใต้การกุมบังเหียนของ “โค้ชโย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ กับ “โค้ชโชค” โชคทวี พรมรัตน์ และสตาฟฟ์ซึ่งเป็นคนไทยล้วนๆ

คงจะเป็นบททดสอบด่านแรกว่าช้างศึกภายใต้การบริหารจัดการของนางฟ้าลูกหนังจะมีทิศทางอนาคตเป็นอย่างไร?

ทั้งนี้ เพราะโจทย์และการบ้านที่มาดามแป้งและทีมงานจำเป็นต้องนำมาวิเคราะห์สำหรับนำไปสู่แผนปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่กำหนด โดยเฉพาะผลงานที่จะสร้างศรัทธาให้แฟนลูกหนังได้ประจักษ์ในเร็ววันถือได้ว่างานหินไม่น้อยทีเดียว

แต่แรงเชียร์และกำลังใจจากแฟนๆที่เชื่อมั่นในคำกล่าวของมาดามในทุกมิติของการบริหารจัดการภายใต้วลีที่ว่า “เชื่อแป้ง”

อาจจะเป็นหนึ่งในพลังที่จะทำให้บอลไทยก้าวไปสู่ดวงดาวดังที่คาดหวังก็ว่าได้.

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร

OOOOOOOO

ความตั้งใจจริงของ “มาดามแป้ง” จะทำให้บอลไทยประสบความสำเร็จไปถึงฝั่งฝัน...ได้จริงๆหรือไม่นั้นไม่มีใครตอบได้หรอกครับ

ตราบใดที่การตัดสินใจในหลายๆนโยบายสำคัญของ FA ไทยแลนด์ ยังไม่ได้เป็นของเธอ...โดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างแท้จริง!!!

บี บางปะกง