หน้าแรกแกลเลอรี่

วิกฤติศรัทธา!!

บี บางปะกง

4 ก.ค. 2564 05:01 น.

สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์พูดคุยกับ “กล้า ปีนเกลียว” วันกล้า ขวัญแก้ว นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ ที่เพิ่งได้รับฉันทมติจากมวลสมาชิกอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ทำหน้าที่นี้ต่อไปเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

ท่านนายกวันกล้า ซึ่งเป็นตัวแทนของสื่อยุคใหม่ให้เกียรติมาแสดงทรรศนะมุมมองส่วนตัวผ่านการไลฟ์สดทางรายการ “เม้าส์กีฬาประสาบีบางปะกง” ด้วยข้อมูลที่ค่อนข้างอินไซด์และอัปเดตกับสถานการณ์ปัจจุบันของวงการฟุตบอลไทย

ที่กำลังเกิด “วิกฤติศรัทธา” อย่างหนักหน่วง กับทั้งผลงานทีมชาติที่ตกต่ำดำดิ่ง เพิ่งกระเด็นพ้นเส้นทางฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกโซนเอเชีย แบบหมดสภาพ รวมทั้งปัญหาลิขสิทธิ์ไทยลีกที่ยังยุ่งอีนุงตุงนัง หาจุดลงตัวไม่ได้!!

นายหัววันกล้าสรุปตบท้ายให้ผมฟังว่า อุปสรรคต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นกับวงการฟุตบอลบ้านเราในยุคนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสมาคมกีฬาฟุตบอลฯยังขาดผู้มีประสบการณ์ซึ่งเป็น “คนในวงการฟุตบอล” (แท้ๆ) เข้ามาช่วยให้คำแนะนำในการขับเคลื่อนทิศทางของการบริหารงานให้ไปสู่เป้าหมายอย่างถูกต้อง

ซึ่งไม่รู้ว่าตรงนี้ผู้บริหาร FA ไทยแลนด์ เขาได้ฟังพอดีหรือเปล่า? เพราะวันรุ่งขึ้นก็มีข่าวว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลฯได้เชิญชวนผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ โค้ชฟุตบอล ตลอดจนบุคลากรในวงการลูกหนัง มาระดมความคิดร่วมกันเพื่อพัฒนาฟุตบอลไทยอย่างจริงจัง (เสียที)

จริงๆแล้วเรื่องราวปัญหาคาราคาซังความรู้สึกที่สังคมมีต่อสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ไม่ได้มีอยู่แค่นี้นะครับ เพราะในส่วนของตะกร้าข่าวการเมืองก็หยิบยกเอาประเด็นที่ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร

ได้แถลงถึงกรณีที่มีการร้องเรียนสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ถึงปมการบริหารจัดการที่ค่อนข้างคลาดเคลื่อนต่อกฎหมายและระเบียบส่อไปในทางที่ทุจริตหรือไม่?

ซึ่งรายละเอียดต่างๆของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ท่านลองไปหาอ่านดูเอาเองตามเนื้อข่าวที่มีสื่อมวลชนหลายสำนักนำเสนอไป เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

แต่หลักใหญ่ใจความก็คือ กมธ.ป.ป.ช. ต้องการให้ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยไปตรวจ-สอบถึงอำนาจหน้าที่ของสมาคมกีฬาว่าสามารถไปตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ได้หรือไม่

และเงินส่วนนี้ไปอยู่ไหน เข้าสมาคมกีฬาหรือไม่ อย่างไร? แต่ละเรื่องล้วนเป็นประเด็นข้อกฎหมายที่ละเอียดซับซ้อนทั้งสิ้น

รวมทั้งกรณีที่มีผู้ร้องเรียน “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถึงช่วงเวลาที่เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกฟุตบอล ว่าคาบเกี่ยวกับการเป็น ‘นักการเมือง’ หรือเปล่า?

เหล่านี้ทางผู้ว่าการ กกท. ยังไม่ได้ตอบคำถาม กมธ.ป.ป.ช. ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้ไปดำเนินการภายใน 2 เดือน และจะเชิญมาใหม่อีกครั้ง

เพราะสมาคมกีฬาไม่ใช่สมาคมทั่วไป การจะไปตั้งบริษัทอะไรจะต้องสามารถตรวจสอบได้

โดยเฉพาะความโปร่งใสและที่มาของการเงิน การกีฬาแห่งประเทศไทยต้องเข้าไปตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลยและขัดต่อกฎหมายในส่วนนี้

ซึ่งปมปัญหาทั้งหมดไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นวันนี้ แต่เป็นคำถามที่สังคมต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากผู้รับผิดชอบมาตั้งนานแล้ว

เพียงแต่ที่ผ่านมาเสียงเรียกร้องต่างๆอาจจะยังดังไม่พอ

ดังนั้นเมื่อเกิด ‘วิกฤติศรัทธา’ กับฟุตบอลไทยอย่างนี้แล้ว ก็ถือโอกาสชำระล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ค้างคาใจ

ให้หมดไปจากความรู้สึกของใครต่อใคร แล้วค่อยมาเริ่มต้นกันใหม่

ก็น่าจะดี...อยู่เหมือนกัน!!!

บี บางปะกง