บี บางปะกง
ประเดิมแข้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับบอลลีกรากหญ้า ไทยลีก 3 รอบ “เนชันแนล แชมเปียนชิป” หรือรอบ “แชมเปียนส์ลีก” เดิม ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี
อาจจะเซ็งเป็ดไปหน่อยสำหรับผม ที่ทีมบ้านเกิด “ปลากัดนักสู้” ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี สตาร์ตด้วยความพ่ายแพ้ในการออกไปเยือนอุดร ยูไนเต็ด 0-2 ในกลุ่มโซนบน
ทำให้อีก 4 แมตช์ที่เหลือนับจากนี้ พวกเขาจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด หากยังหวังลุ้นตั๋วขึ้นสู่ลีกพระรองในฤดูกาลหน้า
ส่วนผลในกลุ่มโซนล่างยังดีหน่อย 2 ทีมที่ผมเอาใจช่วยเป็นพิเศษ คือ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ของ “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ กุนซือป้ายแดง กับทีมเก่าแก่อย่าง ราชประชา คว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งได้อย่างสวยสดงดงาม
โดยเฉพาะทีม “ตราชฎา” ราชประชา สัปดาห์ที่แล้วผมเพิ่งสัมภาษณ์ประธานสโมสร “หม่อมเป๊บ” พลโทหม่อมหลวง สุปรีดี ประวิตร ในรายการไลฟ์สด “เม้าส์กีฬาประสา บี บางปะกง” บนเพจส่วนตัวไปหมาดๆ
แข้งตราชฎาเริ่มต้นในรอบแชมเปียนส์ลีกปีนี้อย่างร้อนแรง หลังบุกไปยิงสลุตบางกอก เอฟซี ถึงครึ่งโหล 6–3 เก็บ 3 แต้มตุนไว้ในกระเป๋าเป็นประเดิม!!
“หม่อมเป๊บ” บอกกับผมว่า ราชประชา ร่วงจากลีกสูงสุดของประเทศจนต้องลงมาเล่นในลีกล่างมาแล้วกว่า 20 ปี
ซึ่งระยะเวลายาวนานขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่นคงถอดใจบอกศาลาหรือขายทีมให้คนอื่นไปตั้งนานแล้ว
แต่ด้วยคุณงามความดีที่ “หม่อมเจต” พลตำรวจตรีหม่อมราชวงศ์ เจตจันทร์ ประวิตร ผู้ก่อตั้งสโมสรฟุตบอลราชประชา ได้ทำไว้กับวงการลูกหนังไทย รวมทั้งประเทศชาตินานัปการ
ทำให้ทุกครั้งที่ทีมตราชฎาทำท่าจะย่ำแย่เข้า ตาจน มักจะมีคนเข้ามาช่วยโอบอุ้มให้ไปต่ออยู่เสมอ
เช่นเดียวกับทีมยุคใหม่ของราชประชาในตอนนี้ก็เหมือนกัน เราโชคดีที่ทาง ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด “ปวิณ ภิรมย์ภักดี” ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือดูแลทีมอย่างเต็มที่
โดย “เสี่ยปิ๊บ” ให้เหตุผลว่า เขาต้องการตอบแทน “หม่อมเจต” และทีมตราชฎา ที่ช่วยก่อตั้งทีม “สมาคมกีฬาบางกอกกล๊าส” ยุคตั้งไข่ เมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว
ซึ่งยุคนั้นบีจีเพิ่งสมัครเข้าแข่งขันในถ้วย ง โดยราชประชาได้ส่ง “พี่ฉัตร” ฉัตรชัย โชยะสิทธิ์ ผู้ล่วงลับไปแล้ว มาคอยเป็นพี่เลี้ยงให้อยู่หลายปี
ประธานปวิณระลึกอยู่เสมอว่าถ้าวันนั้นไม่มีสโมสรตราชฎา ก็อาจไม่มีจ่าฝูงไทยลีก บีจี ปทุม ให้เห็นในวันนี้ก็เป็นได้
ดังนั้นเมื่อเจ้าตัวมีโอกาสจึงอยากยื่นมือเข้ามาซัพพอร์ตตำนานทีมลูกหนังของเมืองไทยให้คืนความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง
โดยเป็นการช่วยสนับสนุนอย่างครบวงจรทุกรูปแบบ ทั้งเรื่องของงบประมาณ สนามแข่งขัน รวมทั้งขุมกำลังนักเตะระดับคุณภาพคับแก้ว
ที่สำคัญนี่คือการช่วยเหลือด้วย “หัวใจ” ล้วนๆ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนซ่อนเงื่อน หรือต่างตอบแทนใดๆทั้งสิ้น
ตัวตนของ “ราชประชา” ยังคงเป็นชื่อของ “ราชประชา” ไม่มีสปอนเซอร์นำหน้าหรือห้อยท้ายให้รกหูรกตาแต่อย่างใด
โลโก้ “ตราชฎา” ยังคงเด่นเป็นสง่าอยู่บนหน้าอกเสื้อ ส่วน “หม่อมเป๊บ” ก็ยังนั่งเก้าอี้ประธานสโมสรเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
นี่แหละคือคุณค่าของคำว่า “ตำนาน” ที่กำลังจะคืนกลับมา...อย่างแท้จริง
ขอบคุณน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของท่านประธานกระต่ายแก้วที่ไม่เคยลืมรากเหง้า และความคลาสสิกของฟุตบอลไทย
ที่อยู่ใน DNA และสายเลือดของแฟนลูกหนังบ้านเรา
อย่างถ้วนทั่วทุกตัวคน!!!
บี บางปะกง