หน้าแรกแกลเลอรี่

“วิสัยทัศน์...ผู้นำ”

บี บางปะกง

29 ก.ค. 2563 05:01 น.

เมื่อจังหวัดระยองเกิดปัญหาที่ทหารระดับวีไอพีติดเชื้อโควิด ออกมาเดินท่องเที่ยวในเมือง

ศบค.ก็เกิดร้อนตัว รีบออกมา รับผิดชอบทุกอย่าง

ถึงแม้กระทั่งกล้าตัดสินใจ จัดการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษเพื่อ กระตุ้นการท่องเที่ยวในต้นเดือน ส.ค.63 นี้เลย

โดยกล้าหาญแบบที่ให้คนดูเข้าชมได้แบบจำกัดจำนวน 2,000 คน

แต่ทำไมๆสมาคมฟุตบอลฯไม่ยักจะรีบเร่ง จัดการแข่งขันลีกอาชีพของประเทศไทยให้กลับมาเตะได้โดยเร็ววัน

รู้ทั้งรู้ว่าทางทรูวิชั่นส์ก็ต้องถ่ายทอดให้จบในปีนี้

สโมสรสมาชิกก็ต้องการเงินสนับสนุนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย

การที่ ศบค.จัดแข่งฟุตบอลที่ จ.ระยอง นั้น ก็แสดงว่าฟุตบอลให้แข่งขันได้แล้ว

แต่ทางสมาคมไม่คิดเห็นความสำคัญใดๆ เลย ไม่มีวิสัยทัศน์ในเรื่องฟุตบอลเลย

ฟุตบอลจะสำเร็จได้นั้น มันต้องชิงความได้เปรียบให้มากที่สุด

ทุกประเทศทั่วโลกชิงความได้เปรียบกัน

โดยขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน

เพราะเขาเห็นถึงความได้เปรียบที่จะนำประเทศของเขาประสบความสำเร็จไง แม้จะใช้งบประมาณมหาศาลก็ยอม

ทุกประเทศทั่วโลกเจอปัญหาโควิด–19 กันทั้งนั้น แต่เขาพยายามที่จะกลับมาให้เร็วที่สุด

เพื่อชิงความได้เปรียบ

เตะก่อน แข่งขันก่อน สภาพทีมชาติมันก็พร้อมก่อนประเทศอื่น โอกาสที่จะประสบความสำเร็จ มันก็มากกว่า

อย่างประเทศเวียดนาม เขาก็พยายามกลับมา ให้เร็วที่สุด และเขาก็ทำได้ เตะแบบเปิดด้วยซ้ำไป

และลีกทั่วโลกที่มีคนติดเชื้อโรคมากกว่าหลายเท่า ก็กลับมาหมดแล้ว แต่ทำไมประเทศไทย ถึงแช่แข็งฟุตบอลของตัวเอง

เราหยุด ไม่ใช่เราอยู่กับที่นะ แต่เรากำลังถอยหลัง เพราะที่อื่นเขาเดินไปข้างหน้ากันหมดแล้ว

ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกก็กำลังจะมาถึง เวียดนามโกยคะแนนนำเราไปแล้ว 3 คะแนน (ถูกไหม?) และเขาก็เตรียมทีมกันไปเป็นเดือนแล้ว

แต่ทีมชาติไทย ฟุตบอลไม่รู้จะเตะเมื่อไหร่เลย

แบบนี้เมื่อผลการคัดเลือกฟุตบอลโลก ถ้าเราตกรอบอีกอย่าไปโทษโค้ช หรือนักเตะอีกต่อไปนะครับ

แต่ต้องโทษวิสัยทัศน์ผู้นำองค์กรของเราแบบ 100% เลยนะ ที่ไม่เคยที่จะต่อสู้เพื่อได้มาซึ่งความได้เปรียบกว่าประเทศอื่น

ไม่เคยที่เป็นผู้นำที่จะคิดก่อน ทำก่อน ชิงความได้เปรียบก่อน

คิดแต่จะเดินตามหลัง ให้ประเทศอื่นๆทำก่อน ไปก่อน แล้วเราค่อยเดินตามเขาไป

จริงๆแล้ว ถ้าผู้นำมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลนั้น จะต้องต่อสู้ที่ให้ฟุตบอลอาชีพกลับมาเตะตั้งแต่ ศบค. เปิดเฟส 3 ให้ฟุตบอลแข่งขันได้แล้ว

เช่น ทำเหมือน จ.ระยอง นั่นแหละ ทดลองเตะ (นัดพิเศษ) ทางภาคเหนือ 1 คู่ ทางใต้ 1 คู่ ทางอีสาน 1 คู่ และกรุงเทพฯ 1 คู่ โดยเตะแบบปิด

หลังจากนั้น 14 วันก็ทดลองอีกครั้ง แต่เอาทีมใหม่มาเตะตามภาคต่างๆ แล้วก็ประเมินผล ทำแบบนี้อีกครั้ง

เมื่อมันไม่มีการแพร่เชื้อเกิดขึ้น กลางเดือนมิถุนายน 63 หรือต้นเดือน ก.ค.63 ก็เริ่มเตะได้แล้ว อาจจะมีคนดูแบบมีระยะห่างได้ด้วยซ้ำไป

ปัญหาเรื่องต่างๆก็จบ สมาชิกสโมสรก็ได้เดิน ต่อไปได้

คิดที่จะนำหน้าคนอื่นเขาบ้าง อย่าเดินตาม หลังคนอื่นตลอด ความสำเร็จมันจะไม่เกิดขึ้นนะ

ความหวังจะไปฟุตบอลโลก

ต้องดูวิสัยทัศน์ผู้นำองค์กรก่อน...อันดับแรก

สมบัติ ลีกำเนิดไทย

OOOOOOO

ปัญหาระหว่างทรูวิชั่นส์กับสมาคมลูกหนังไทยมันจบไปแล้วล่ะครับ

ต่อไปนี้วงการฟุตบอลบ้านเราต้องช่วยตัวเอง ลูกเดียว

จะหวังพึ่ง “วิสัยทัศน์” ผู้นำองค์กร ก็คิดช้า ทำช้า ซะเหลือเกิน

สโลแกน “Moving forward” ของท่าน

ยังใช้ได้หรือเปล่า...ก็ไม่รู้!!!

บี บางปะกง