เบี้ยหงาย
โครงการ “ร่วมใจฝ่าโควิด จ.ระยอง” ที่ทาง ศบค. ซึ่งก็มีนัยของตัวแทนภาครัฐนั่นแหละประกาศออกมาเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในจังหวัดระยอง หรือจะเรียกเยียวยา แก้ไข แก้ตัว รวมถึงล้างบาปให้แก่ พี่น้องเราที่นั่น ก็สุดแต่จะคิดเอา รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นการสืบเนื่องจากความผิดพลาดในการปฏิบัติการของภาครัฐ คงไม่ต้องย้อนความ
หนึ่งในโครงการดังกล่าว มีการระบุเกี่ยวกับการจัดฟุตบอลแบบเปิด ซึ่งภายหลังก็มีรายละเอียดออกมาเพิ่มมากขึ้น คือการจัดฟุตบอลนัดพิเศษของไทยลีกออลสตาร์ โดยจะเปิดให้แฟนบอลเข้าไปชมในสนามได้ด้วย เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่น แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัย ปลอดเชื้อ ในจังหวัดระยอง กำหนดแข่งในวันที่ 8 ส.ค.
การจัดกิจกรรม โดยเฉพาะเรื่องกีฬาแล้ว นับเป็นเรื่องดี ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมอยู่แล้ว เป็นโอกาสอันดีที่ดาราไทยลีกจะไปเตะกันที่ จ.ระยอง หลังจากที่เว้นวรรคกันมานาน
ยิ่งเมื่อฟุตบอลลีกไทยกำหนดจะกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งก็ในเดือน ก.ย.โน่น แถมการกลับมาเตะก็ยังจะเป็นการแข่งแบบปิดสนาม ไม่ให้มีแฟนบอลเข้าชม มีกฎกติกามารยาทในแบบ “วิถีใหม่” หรือ นิวนอร์มอล ซึ่งก็ได้มีการทำคู่มือร่วมกับทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทยและฝ่ายสาธารณสุข
คงรับทราบกันมาอย่างต่อเนื่อง ฟุตบอลกว่าจะได้คลายล็อก กว่าจะมีแนวทางของการกลับมาแข่งขัน หลายฝ่ายต้องทำงานกันอย่างหนัก ใช้เวลามายาวนานมาก และยังได้รับอนุญาตเพียงการคลายล็อกด้วยการให้เล่นได้ ซ้อมได้ ซึ่งต้องมีการป้องกันอย่างเข้มงวดและเน้นย้ำว่าการแข่งขันที่จะมีขึ้นก็เป็นแบบปิด
รวมถึงการที่นักเตะและเจ้าหน้าที่จะต้องได้รับการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนการแข่งขัน ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนถึงระยะเวลาและจำนวนการตรวจอย่างเป็นทางการ มีเพียงการกล่าวอ้างว่าจะตรวจก่อนแข่ง 72 ชั่วโมง
แต่พลันที่เกิดความผิดพลาดของรัฐในเหตุการณ์ที่ จ.ระยอง ก็มีคำสั่งให้จัดฟุตบอลนัดพิเศษออกมาอย่างง่ายดาย
แล้วที่ทำกันมายังจะใช้กันอยู่รึเปล่า และหากไปเตะกันที่จังหวัดอื่น จะได้รับสิทธิเช่นที่ จ.ระยอง หรือไม่!!!
และเชื่อว่ากิจกรรมนี้ไม่ได้มีการหารือกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือสมาคมกีฬาฟุตบอลฯมาก่อนเลย สององค์กรนี้เพิ่งมารับทราบ และรับคำสั่งในภายหลัง
สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความงุนงงที่ออกมาจากทั้งสององค์กรนี้เมื่อมีการแถลงจาก ศบค.ตั้งแต่วันแรก ด้วยยังไม่รู้ว่ากิจกรรมนี้คืออะไร และมาถึงเมื่อวาน ความชัดเจนก็ยังไม่เกิดขึ้น มีผู้สื่อข่าวไปถามไถ่ผู้ว่าการ กกท. ก็ยังไม่สามารถให้รายละเอียดอะไรได้มากนัก แค่ตามน้ำไปกับการประกาศจากภาครัฐ แม้กระทั่งงบประมาณที่จะดำเนินการก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเอามาจากส่วนไหน นี่ก็เตรียมงานไว้วันที่ 1 ส.ค. ไม่ใช่วันที่ 8 ส.ค.อย่างที่ประกาศกัน
แน่นอนว่าเมื่อเป็นนโยบายรัฐ ก็ต้องดำเนินตามและยิ่งเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องที่จะช่วยฟื้นฟูให้กับพี่น้องที่ จ.ระยอง ย่อมเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายพร้อมจะร่วมมือดำเนินการด้วยความเต็มใจ
เพียงแต่มันสะท้อนให้เห็นถึงวิธีการบริหารจัดการของผู้มีอำนาจในประเทศนี้!
บทจะยากมันก็ยากและมากด้วยเรื่อง มากด้วยหลักการ และวิธีการ จะชี้แจงแสดงเหตุผลอะไรมันก็ยากที่จะรับฟัง
แต่ไอ้บทจะง่ายมันก็ง่ายเหลือเกิน เพียงแค่ ออกคำสั่ง แค่ตวัดลิ้นก็มีเหตุผลสวยๆงามๆมาสนับสนุน ทำได้ในทันที โควิดยังต้องเชื่อฟัง
ช่างหลักแหลมกันเสียเหลือเกิน มันง่ายไปมั้ยเนี่ย...
“เบี้ยหงาย”