หน้าแรกแกลเลอรี่

ทางลงที่แตกต่าง!!

บี บางปะกง

12 มิ.ย. 2563 05:01 น.


วันก่อนผมเห็นข่าวการเปิดตัว “เจ้าแซม” รณชัย รังสิโย อดีตกองหน้าทีมชาติไทย วัย 31 ปี ที่เซ็นสัญญาเข้าร่วมทัพทีม “ตราชฎา” ราชประชา เอฟซี ที่เตรียมลุยศึกเนชั่นลีก (ลีกภูมิภาคเดิม) เพื่อชิงที่นั่งขึ้นมาเล่นในไทยลีก 2

ก่อนหน้านี้รณชัยเพิ่งถูกยกเลิกสัญญากับ อยุธยา ยูไนเต็ด ที่เจอพิษโควิด-19 เล่นงาน จนต้องปล่อยนักเตะออกจากทีมไปจนหมด

เห็นเส้นทางการค้าแข้งที่อยู่ในช่วงขาลงของ “เจ้าแซม” แล้ว ทำให้อดนึกถึงอดีตอันรุ่งโรจน์ของเขาเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้วไม่ได้

เขาเติบโตขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกับ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา และถูกยกให้เป็นดาวรุ่งเนื้อหอมกรุ่นของวงการลูกหนังไทยที่ใครๆก็อยากได้ไปร่วมทีม

เส้นทางลูกหนังที่เริ่มต้นด้วยกลีบกุหลาบของ “แซม” กับการได้โควตาไปฝึกฟุตบอลกับเอฟเวอร์ตันเป็นเวลา 9 เดือนเต็ม ขณะที่ “มุ้ย” ไม่ผ่านการคัดเลือก

เมื่อเขากลับจากอังกฤษก็ย้ายมาแจ้งเกิดกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เจ้าตัวระเบิดประตูเป็นว่าเล่น พาทีม “จอมช็อต” เถลิงบัลลังก์แชมป์ไทยลีก 2008 ได้สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่!!

ในปีต่อมา กลางฤดูกาล 2009 เจ้าตัวถูก “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ซื้อตัวไปเสริมเขี้ยวเล็บ ด้วยสนนราคาค่าตัว 3 แสนบาท ซึ่งถือว่าสูงเอาเรื่องทีเดียวสำหรับนักเตะบ้านเราในยุคสมัยนั้น

แต่อนิจจา! ใครจะเชื่อว่าโชคชะตาของ “เจ้าแซม” จะเริ่มหักเหตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อเจ้าตัวเกิดบาดเจ็บหัวเข่าขวาบิดอย่างแรงจากเกมอุ่นเครื่องระหว่างเมืองทองกับทีมชาติไทย

ซึ่งนั่นคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิต เพราะแม้ว่าเค้าจะพยายามฟิตกลับมา แต่ฟอร์มก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

หนำซ้ำอาการเดี้ยงก็ตามรังควานชีวิตค้าแข้งของ “เจ้าแซม” มาโดยตลอด

ไม่ว่าจะย้ายไปอยู่ทีมไหน ทั้งบีอีซี เทโรศาสน, แบงค็อก ยูไนเต็ด, แอร์ฟอร์ซ, ซุปเปอร์ พาวเวอร์, เชียงใหม่ เอฟซี จนมาถึง อยุธยา เขาไม่เคยกลับไปมีโมเมนต์ดีๆเฉกเช่นอดีตได้อีกเลย

ต่างจากเส้นทางของ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่แม้จะเริ่มต้นไม่เปรี้ยงปร้างเท่า แต่กราฟชีวิตมีแต่พุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ จากดาวรุ่งสู่ ดาวยิง “หมายเลข 1” ของทีมกิเลนผยองและทีมชาติไทย

มีโอกาสได้ไปเซ็นสัญญาอาชีพกับแมนฯซิตี้ และจารึกประวัติศาสตร์เป็นแข้งไทยคนแรกที่ไปค้าแข้งในลาลีกาสเปนกับอัลเมเรีย ก่อนที่จะได้ไปโกยเงินเยนในเจลีกถึง 2 รอบ

โบราณเขาว่าคนเราแข่งเรือแข่งพายพอแข่งกันได้ครับ แต่แข่งบุญวาสนานั้น มันยากที่จะแข่งกันจริงๆ กับตัวเลขอายุอานามพ้นเลข 3 ไปแล้ว ถือเป็นรถไฟเที่ยวสุดท้ายของนักเตะในตำแหน่งกองหน้าอาชีพ

ในขณะที่ “มุ้ย” ยังยืนหยัดอยู่บนความท้าทายกับลีกซามูไรในเสื้อสีส้มของชิมิสึ เอส-พัลส์ “แซม” รณชัย เลือกที่จะคืนสู่เหย้าไปหาปลายทางในชีวิตค้าแข้งของตัวเองอย่างเรียบง่ายกับต้นสังกัดดั้งเดิมอย่าง ราชประชา

วงจรชีวิตนักฟุตบอลก็อย่างนี้แหละครับ บางครั้งจุดเริ่มต้นของขาขึ้นช่างคล้ายคลึงกัน

แต่ทางลงของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน

แล้วแต่...ชะตาฟ้าลิขิต!!!

บี บางปะกง