ทางเลือก “เชือกวิเศษ”

“ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” ฟุตบอลไทยในช่วงสองสามวันนี้

ไม่มีเรื่องไหนจะฮอตฮิตเท่า ประเด็นข่าวการย้ายทีมแบบฟ้าผ่า!! ของแข้งตัวหลัก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

“เจ้าเก่ง” อดิศร พรหมรักษ์ แนวรับดีกรีทีมชาติชุดใหญ่ ที่ย้ายไปช่วยงาน “ครัวมาดาม” ที่คลองเตย เรียบร้อยโรงเรียน “เชื่อแป้ง” แล้ว

และที่กำลังจ่อจะโบกมือลาค่อนข้างแน่ ก็คือ “เจ้าตัง” สารัช อยู่เย็น กัปตันตัวลูกหม้อของทีม ที่จะย้ายไปดูแลกิจการคาร์แคร์ของตัวเองแถวย่านลำลูกกา

โดยมี พลพรรค “กระต่ายแก้ว” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พร้อมอ้าแขนกว้างต้อนรับสมาชิกใหม่อยู่ 

ต้นสายปลายเหตุของการเปลี่ยนสีเสื้อแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของทั้ง 2 แข้งดังในคราวนี้ 

ผมไม่อยากจะก้าวล่วง เพราะเป็นเรื่องภายในของสโมสรเค้าที่ต้องไปเคลียร์กันเองให้ลงตัว

แต่ถ้าถามความรู้สึกในฐานะแฟนเมืองทองคนนึง ยอมรับว่าใจหายอยู่เหมือนกัน

กับการที่จะต้องเสียของรักไปชนิดช็อก!! ความรู้สึกอย่างนี้

โดยเฉพาะมิดฟิลด์ห้องเครื่องอย่าง “เจ้าตัง” สารัช ที่เป็นสมบัติอันสุดหวงแหนของสาวกกิเลนมาช้านาน ไม่มีใครอยากเห็นเขาไปรับใช้ทีมอื่นในประเทศหรอก 

ผู้บริหารเมืองทองก็เหมือนกัน ถ้าเลือกได้ก็คงอยากจะปล่อยให้ดาวเตะ “เชือกวิเศษ” ออกไปเล่นในลีกต่างแดนที่มาตรฐานสูงกว่า ไม่ว่าจะเป็น เจลีก หรือ เคลีก ที่ไหนก็ได้ที่เจ้าตัวปรารถนา

เพียงแต่ว่า ที่ผ่านมาสิ่งเหล่านั้นมันไม่เคยเกิดขึ้นกับ “เจ้าตัง”

ข่าวรำ่ ข่าวลือ ที่ออกมาต่างๆ นานา ส่วนใหญ่เกิดจากการปั้นข่าวสร้างกระแส เรียกเรตติ้งความสนใจจากบรรดาเอเย่นต์ทั้งนั้น ไปสืบสาวหาต้นตอกันจริงๆ แล้ว แทบไม่มีความจริงเลยสักเรื่อง

สรุปง่ายๆ ก็คือ “สารัช อยู่เย็น” อยากเดินตามรอย พี่ๆ เพื่อนๆ กิเลนผยอง ทั้ง “เทพมุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา, “โก๋อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน หรือ “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ใจจะขาด

แต่ทางสโมสรในลีกที่เขาอยากไปเล่น ไม่มีทีมไหนสนใจน่ะสิ

ไอ้ครั้นจะให้เมืองทองไปเร่ขายราคาถูกๆ มันก็คงใช่ที่

ในเมื่อเจ้าตัวมีศักดิ์ศรีเป็นถึงแข้งตัวหลักทีมชาติชุดใหญ่ แถมยังสวมปลอกแขนเป็น “กัปตันทีม” กิเลน อีกต่างหาก

การจะย้ายไปเล่นที่ไหน ยังไง? มันก็ต้องดูให้รอบคอบหน่อย

จริงๆ แล้วการปล่อย “เจ้าตัง” ไปเล่นสโมสรอื่นในไทยลีก น่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่เกิดขึ้นด้วยซำ้!!

เพียงแต่คราวนี้มันอาจจะเป็นเรื่องของ “สถานการณ์พาไป” หรืออะไรก็ตามแต่

แต่เชื่อเถอะว่า ที่สุดแล้วทางเลือกที่บิ๊กบอสเมืองทองจะปล่อยให้ “เจ้าตัง” เดินต่อไป ย่อมเป็นทางเดินที่ราบรื่น..งดงาม และดีต่ออนาคตค้าแข้งของตัวเขาเองอย่างแน่นอน

สารัช เองก็เหมือนกัน อายุอานามปีนี้ ก็ปาเข้าไป 28 ปีแล้ว

นับเป็นช่วงที่ “นักฟุตบอลอาชีพ” คนนึงจะถึง “จุดพีค” สุดๆ ที่จะแสดงศักยภาพออกมาได้

การออกจากบ้านเกิดที่ เมืองทอง ไปอยู่กับสังกัดอื่น เท่ากับเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะออกจาก “Save Zone” ที่คุ้นเคยมาช้านาน

หวังว่าทางเลือกในคราวนี้ จะเป็นทางเลือก “เชือกวิเศษ” ที่นำพาเขาไปสู่ความรุ่งโรจน์ (ยิ่งกว่า) ในชีวิต

คนชื่อ สารัช ต้อง “อยู่เย็น” ครับ มันถึงจะเหมาะ

ถ้าอยู่ที่ไหนแล้ว “ร้อนรุ่ม”

จะต้องทนไปทำไม?

บี บางปะกง