MR .Unknown
สถานการณ์ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ในประเทศไทยดูจะเบาบางลง ตรงกันข้ามกับประชาชนในประเทศดูจะหนักหนาสาหัสกับสถานการณ์ทางการเงิน
ตอนนี้รัฐบาลกำลังเร่งช่วยเหลือให้ครบทุกอาชีพจนมาถึง “วงการกีฬา” ที่อนุมัติวงเงินรวมกว่า 260 ล้านบาทเยียวยา “กีฬาอาชีพ และกีฬามวย” ใครต้องการตรวจสอบสิทธิ์คลิกลิงก์นี้ https://www.thairath.co.th/sport/others/1848996
นอกจากข่าวดีเรื่องของเงินช่วยเหลือแล้ว มาตรการผ่อนปรนระยะ 2 ของรัฐบาล ยังทำให้กีฬาบางชนิดได้อนุญาตให้เปิดเพิ่มเติม เช่น โรงยิม, สถานที่ออกกำลังกายในร่ม, ฟิตเนส (เฉพาะนอกห้าง หรือ ฟรีเวทที่ไม่เป็นการออกกำลังกายรวมกลุ่ม), สระว่ายน้ำ และอนุญาตให้สามารถเล่นกีฬาประเภททีม ที่ไม่เกินทีมละ 3 คนได้ แต่ห้ามมีผู้ชม และในส่วนฟิตเนส ห้ามใช้เครื่องออกกำลังกาย, และเครื่องปั่นจักรยาน ในส่วนที่ยังคงให้ปิดบริการต่อ คือ สนามมวย, โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ สวนน้ำ และสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาทางน้ำ หวังว่าหลังจากนี้สถานการณ์คงดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีการระบาดระลอก 2 คนไทยก็ใกล้จะได้ชมได้เล่นกีฬาที่นิยมในประเทศเราสักที อาทิ ฟุตบอล, วอลเลย์บอล, มวย ฯลฯ
ซึ่งในช่วงที่ "โควิด-19" ระบาดทำให้เราได้เห็นอาชีพที่ 2 ของนักกีฬาทุกชนิดที่ออกแบบในรูปแบบต่างๆ ทั้งการขายสินค้า, การรับจ้าง, การเป็นยูทูบเบอร์ น่าคิดว่าหากไม่มีโควิด-19 เราจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้หรือไม่
บางคนอาจจะทำเพราะมี “เวลาว่าง” ช่วงกักตัวอยู่บ้าน แต่บางคนไม่ใช่เวลาว่างแต่มันคือ “การเอาตัวรอด” นี่คือสัญญาณเตือนว่าหลังจบโควิด-19 เมื่อมีวัคซีนป้องกันหรือยารักษาออกมาแล้ว ยังจะใช้ชีวิตแบบสนุกหรือฟุ่มเฟือยอีกต่อไปไม่ได้ การเป็นนักกีฬาอาจจะเหนื่อยและเสียเวลาไปกับการซ้อม แต่เมื่อคุณประสบความสำเร็จเงินที่ได้มานั้นมากมายมหาศา นอกจากวินัยการฝึกซ้อมแล้ววินัยทางการเงินนั้นสำคัญไม่แพ้กัน
ดังนั้น “โควิด-19” คือ “ผู้ฝึกสอน” สำหรับคนวงการกีฬาในช่วงสถานการณ์แบบนี้ที่ต้องเรียนรู้การใช้ชีวิต แบบรู้ลิมิต และวางแผนให้ดี
องค์ชายกระต่าย