หน้าแรกแกลเลอรี่

โคตรเดือด "บุรีรัมย์" แม่นโทษดับ "ชลบุรี" ผงาดคว้าแชมป์ "โค้กคัพ" (คลิป)

ไทยรัฐออนไลน์

27 ก.พ. 2563 20:15 น.

"บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ดวลจุดโทษเอาชนะ "ชลบุรี เอฟซี" 4-2 หลังเสมอในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-1 ส่งผลให้ผงาดคว้าแชมป์ ฟุตบอล โค้กคัพ ไปครองได้สำเร็จ

วันที่ 27 ก.พ. 63 การเเข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศเเห่งประเทศไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี "โค้กคัพ" ครั้งที่ 21 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นการพบกันระหว่าง แชมป์เก่า "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าครั้งที่ 20 และแชมป์โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง พบกับ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี แชมป์โซนภาคตะวันออก

สำหรับเกมคู่นี้ได้รับเกียรติจาก พรวุฒิ สารสิน ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, ธนพร โฆสิตาภัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธุรกิจพาณิชย์ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, นิฏฐา สินศิริพงษ์ รองผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ - Customer Marketing บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, ธงชัย ศิริธร ที่ปรึกษาบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, มัณฑนา หล่อไกรเลิศ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด (Marketing Director) บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด, ดร.ศราวุธ ดิษยวรรธนะ ผู้จัดการสายงานกิจกรรมพิเศษและกีฬา บริษัท ไทยน้ำทิพย์คอมเมอร์เชียล จำกัด, ดำรงรักษ อภิบาลสวัสดิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการอาวุโส บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน), ตัวแทนการกีฬาแห่งประเทศไทย, มนต์ชัย โชคไพบูลย์กิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงงานฟุตบอลล์ไทยสปอร์ตติ้งกู๊ดส์ จำกัด , ธนพล ขาวคม ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษและกีฬา สายการบินแอร์เอเชีย บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด, จินตนา อุดมทรัพย์ ที่ปรึกษาคณะบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, สมชาติ สุรจิตติพงค์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน), ธนพัฒน์ โรจนไพบูลย์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์มาม่า บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน)

ณฐนนท์ ดนัยพิริยะ (Natanon Danaipiriya) ผู้อำนวยการฝ่ายรายการกีฬาและฝ่ายออกอากาศ สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี (Sports Programs Director and Broadcast Director Thairath TV), โอฬาร เชื้อบาง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน), ปราโมทย์ ศักดิ์กำจร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มาร่วมชมกรแข่งขัน

เปิดฉากเริ่มเกมผ่านไป 10 นาที เป็นทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่คุมเกมครองบอลบุกเข้าใส่มีจังหวะเข้าทำแต่ไม่สามารถเบิกสกอร์แรกได้ ส่วนทาง ชลบุรี เอฟซี อาศัยลูกสวนกลับเร็วหวังฉวยโอกาสโจมตีเซนเตอร์ของทีมปราสาทสายฟ้าที่ดันขึ้นสูง เวลาผ่านไป 20 นาที กลับเป็นฝั่งชลบุรี เอฟซี ที่ครองบอลได้เหนือกว่ามีจังหวะเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่นักเตะบุรีรัมย์ สามารถสกัดออกจากพี้นที่อันตรายไว้ได้หมด

นาทีที่ 27 ชลบุรี เอฟซี ได้ลูกฟรีคลิก แล้วเป็นทาง รชต หมอรักษา มิลฟิลด์กัปตันทีมเปิดลูกเข้ากรอบเขตโทษและบอลทะลุถึง นิติธร ศรีประมาณ ยิงเข้าไปตุงตะข่ายเข้าไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้า ในนาทีที่ 39 ทีมฉลามชลเกือบได้เฮเมื่อ วรากร ทองใบ ที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงไปหาจังหวะสับไกในกรอบเขตโทษ แต่วิถีบอลตรงกรอบ นพพล ละครพล นายด่านบุรีรัมย์รับสบาย

นาทีที่ 45 ชลบุรี มีโอกาสเข้าทำอีกครั้งจากการเซตบอลของ รชต หมอรักษา จากแดนตัวเอง ก่อนที่จังหวะสุดท้ายเป็นทาง วรากร ทองใบ ที่ได้บอลฝั่งซ้ายแล้วส่งให้กับ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ยิงเต็มข้อด้วยขวาบอลพุ่งหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดายทำให้จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

กลับมาต่อในครึ่งหลังนาทีที่ 48 ชลบุรี เอฟซี มีโอกาสได้ลุ้นจากการเลี้ยงบอลของ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนแตะเบาๆให้ เนติธร แก้วเจริญ ได้ซัด บอลไปตรงตัวนายด่านบุรีรัมย์ โดยเวลาผ่าไป 60 นาทียังคงเป็นทีมฉลามชล ที่ผับสนามบุกใส่บุรีรัมย์อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้

จนกระทั่งนาทีที่ 70 บุรีรัมย์ ได้จังหวะสวนกลับเป็นทาง ภัทร สร้อยมาลัย พักบอลแล้วลากไปทางฝั่งขวาก่อนเปิดบอลโด่งเข้าในกรอบเขตโทษให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่เปลี่ยนลงสนามขึ้นโขกแต่บอลหลุดออกเสาไปนิดเดียว ในนาทีที่ 78 ชลบุรีได้ลูกเตะมุมทางกาบซ้าย โดย พิทักษ์ พิมแป้ เปิดเข้าไปลุ้นประตู นายด่านบุรีรัมย์กะจังหวะรับบอลพลาด บอลทะลักเข้าหัว พงศกร ตรีศาสตร์ โหม่งหลุดกรอบออกไป ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ชลบุรีเกือบได้ประตูชัย จากการเปิดฟรีคลิกจาก ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว เปิดบอลเข้าลุ้นในกรอบเขตโทษ แล้วกองหลังบุรีรัมย์แย่งโหม่งตัดหน้าผู้เล่นแนวรุกชลบุรีแต่เกือบผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง จบเกมเสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที

ในช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกผู้เล่นบุรีรัมย์เน้นเกมเพรสซิ่งจนกดดัน อนุพงษ์ กันยาลัง ผู้รักษาประตูชลบุรี เอฟซี ที่ได้บอลหน้าประตูตัวเองและโดนผู้เล่นแนวรุกปราสาทสายฟ้าวิ่งกดดันจนเปิดบอลพลาดมาเข้าทาง ทรงชัย ทองฉ่ำ ที่เก็บตกแล้วยิงสวนเข้าประตูแบบโล่งๆขึ้นนำ 1-0 ในช่วงครึ่งหลังของทดเวลาพิเศษ ชลบุรี พยายามที่จะบุกเพื่อทวงประตูคืนจนกระทั่งในนาทีที่ 113 ธนดล ขาวสะอาด ของบุรีรัมย์ วิ่งสกัดขา เสฏฐวุฒิ สดาวงษ์ ในกรอบเขตโทษ กรรมการเป่าเป็นจุดโทษทันที แล้ว ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว รับหน้าที่สังหารไม่พลาดตีเสมอ 1-1 ส่วนเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ต้องมาดวลจุดโทษและสุดท้ายเป็นทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่แม่นโทษกว่าชนะ 4-2 ทำให้สกอร์รวมชนะ 5-3 ป้องกันแชมป์เป็นสมัยที่สองได้สำเร็จ

นอกจากทีมปราสาทสายฟ้าจะได้แชมป์เป็นสมัยที่สอง ก็จะได้รับเงินสด จำนวน 1,000,000 บาท และทริปเยือนเมือง ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ (Coke Cup Champion Tour LIVERPOOL ENGLAND) จากบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ส่วน ชลบุรี เอฟซี รองแชมป์ได้รับเงินสด จำนวน 500,000 บาท จากบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด

สำหรับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยม (Man of the Match) จะได้รับ รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า 1 คัน มูลค่า 97,500 บาท จาก บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นของ นพพล ละครพล ผู้รักษาประตูของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และยังได้รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม (Best Goalkeeper) จะได้รับเงินสด จำนวน 5,000 บาท จากบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด

ขณะที่ นิติธร ศรีประมาณ ศูนย์หน้าชลบุรี เอฟซี ได้รางวัลกองหน้ายอดเยี่ยม (Best Forward) จะได้รับเงินสด จำนวน 5,000 บาท จากบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ส่วน รชต หมอรักษา มิดฟิลด์ของชลบุรีได้รางวัลกองกลางยอดเยี่ยม (Best Midfielder) จะได้รับเงินสด จำนวน 5,000 บาท จากบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ด้าน ทรงชัย ทองฉ่ำ แนวรับชลบุรี เอฟซี ได้รางวัลกองหลังยอดเยี่ยม (Best Defender) จะได้รับเงินสด จำนวน 5,000 บาท จากบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ขณะที่ 3 นักเตะจากชลบุรี เอฟซี คือ นิติธร ศรีประมาณ, พัทธดนย์ เที่ยงวงศ์, กิตติพงษ์ เขตภารา ได้รางวัลผู้ทำประตูสูงสุด (Top Goal Scorer) ทำได้ 3 ประตู จะได้รับ เงินสด จำนวน 10,000 บาท จากบริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน)

ด้านรางวัลนักฟุตบอลแฟร์เพลย์ (Fair Play Player) จะได้รับ Voucher ตั๋วเครื่องบินไป-กลับภายในประเทศ 2 ที่นั่ง มูลค่า 20,000 บาท จากบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จํากัด เป็นของ กิตตชัย ใยดี จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เชน ลุค ไซบิวรี่ ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม (Coach of the Match) จะได้รับ Voucher ตั๋วเครื่องบินไป-กลับภายในประเทศ 2 ที่นั่ง มูลค่า 20,000 บาท จากบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จํากัด

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย ธนิศร ไพบูลย์กิจเจริญ, กฤษณะ ดาวกระจาย, กิตติชัย ใยดี, ธีรภักดิ์ เปรื่องนา, ธนดล ขาวสะอาด, ภัทร สร้อยมาลัย, อภิเดช จันทร์งาม, บดินทร์ สระแก้ว, นวพรรษ เทียนไชย, ธนโชติ พุกตื้อ และ นพพล ละครพล 

ชลบุรี เอฟซี พงศกร ตรีศาสตร์, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, ณัฐพงษ์ ไชยดี, รชต หมอรักษา, นิติธร ศรีประมาณ, พัทธดนย์ เที่ยงวงศ์, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, เนติธร แก้วเจริญ, ทรงชัย ทองฉ่ำ, สราวุฒิ เสาวรส และ อนุพงษ์ กันยาลัง เป็นผู้รักษาประตู