บี บางปะกง
“เทพมุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา แถลงข่าวเปิดตัวเป็นนักเตะใหม่ป้ายแดงของชิมิสุ เอสพัลส์ ได้ไม่ทันข้ามวัน
ล่าสุด “เจ้าตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ก็เตรียมย้ายสังกัดไปลุยเจลีกอีกคน กับสโมสรคอนซาโดเล ซัปโปโร ของ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ด้วยสัญญายืมตัวจากโอเอช ลูเวิน ในเบลเยียม
เบื้องหน้า เบื้องหลังของดีลนี้เป็นอย่างไร? ไว้รอให้ยอดนายทวารทีมชาติไทยไปชูเสื้อกับซัปโปโรจริงๆเสียก่อน ค่อยมาว่ากันทีหลัง
แต่วันนี้ขอเขียนถึงความสำเร็จของ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ได้ชูถ้วยแชมป์ “ลีโอ ปรีซีซันคัพ 2020” ไปสดๆร้อนๆเมื่อวันก่อน
เป็นรางวัลปลอบใจให้กับทีมที่พลาดโทรฟี “ไทยแลนด์ แชมเปียนส์คัพ” หลังปราชัยให้กับ สิงห์ เชียงราย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยรอบชิงชนะเลิศ พลพรรคท่าเรือ เป็นฝ่ายยิงแซงเอาชนะเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-1 คว้าถ้วยใบนี้มาครองเป็นสมัยแรก
ซึ่งฮีโร่ของยอดทีมแห่งถิ่นคลองเตย ก็ใช่อื่นไกล เป็น “อุลตรากอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร ที่เพิ่งยืมตัวมาจากทีมกิเลนผยอง แผลงฤทธิ์ ยิง 1 จ่าย 1 ให้ทีมเข้าวินหน้าตาเฉย
โดยเฉพาะประตูชัยที่เจ็บจี๊ดสุดๆ เพราะมาได้เอาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บพอดิบพอดี !!
เรียกว่าแชมป์คราวนี้ เป็นสิ่งที่ “ดีต่อใจ” ของสาวกเจ้าท่าทุกคน เพราะถือเป็นการเรียกความมั่นใจให้กับทีมก่อนเปิดฤดูกาลใหม่
ที่แน่นอนว่า “ความกดดัน” ย่อมถาโถมเข้าใส่ “มาดามแป้ง” กับลูกทีมอย่างเลี่ยงไม่ออกจริงๆ
หลังจากพวกเขาถูกยกให้เป็น “เต็งแชมป์” ไทยลีกในซีซันนี้แต่ไก่โห่
เหตุเพราะการทุ่มเสริมทัพอย่างสะบั้นหั่นแหลก จนนักเตะดีๆล้นสโมสร ชนิดจัดลงสนามได้พร้อมกันทีเดียว 3 ทีมเลยยังได้
อีกสิ่งนึงที่น่ายินดีเหนือกว่าชัยชนะใดๆ สำหรับเกมนัดนี้
ก็คือภาพของกองเชียร์ทั้งเมืองทองและ การท่าเรือที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ทีมรักของตัวเองในลีโอ สเตเดียม โดยไม่มีเรื่องมีราวใดๆ อย่างที่หลายคนหวาดหวั่น
นี่คือสิ่งที่เราไม่ได้เห็นมานานหลายปีแล้ว หลังจากที่แฟนบอล 2 ทีมนี้เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาตลอด
เรียกว่าเจอกันที่ไหน ต้องมีเฮที่นั่น !!
จนกลายเป็น “อริ” ตลอดกาลซึ่งกันและกัน ชนิดไม่มีท่าทีจะสมานรอยร้าวได้ง่ายๆ
กระทั่งปีที่แล้ว ที่กองเชียร์สิงห์เจ้าท่าพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ จากอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตสาวกพันธุ์แท้ไปหลายท่าน อย่างน่าเศร้าใจ
ก่อให้เกิดเป็นกระแส “ความเห็นอกเห็นใจ” ของแฟนบอลจากทุกสโมสรในเมืองไทย
ไม่เว้นกระทั่งสาวกเอสซีจี เมืองทองฯ ที่ออกมาร่วมให้กำลังใจการท่าเรืออย่างไม่มีเงื่อนไข
ซึ่งจากจุดนั้นนั่นเอง เป็นเสมือนการ “ลบรอยบาดแผล” (ลึก) ในอดีตให้หมดสิ้นไป
นับจากนี้...เชื่อว่าแฟนบอลทั้งสองทีมจะทิ้งภาพความหลังที่แย่ๆไว้เป็นบทเรียนสอนใจกองเชียร์ “ท่าเรือ-เมืองทอง” ต้องดูฟุตบอลในสนามเดียวกันได้
โดยจะไม่มี “บาดแผลใหม่” มาย้ำรอยอดีต
ให้เจ็บปวดกันอีก...ตลอดไป !!!
บี บางปะกง