หน้าแรกแกลเลอรี่

คลุกวงในไทยลีก : ทีมชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์ เข้ารอบ 8 ทีม ศึก ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย

วีเออาร์

21 ม.ค. 2563 05:01 น.

Happiness is not about getting all you want, but it is about enjoying all you have. ความสุขไม่ใช่การแสวงหา แต่เป็นเพราะพอใจในสิ่งที่มีอยู่

และแล้วในที่สุด ทีมชาติไทยชุดยู 23 ก็สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้แค่การเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย เพราะล่าสุดไปพ่ายให้กับ ซาอุดีอาระเบีย 0-1 แบบ น่ากังขา ในการตัดสินให้ไทยเสีย ลูกจุดโทษ ของกรรมการจาก โอมาน ซึ่งเป็นประเทศลูกไล่ใกล้ชิดของ ซาอุดีอาระเบีย ในภูมิภาคตะวันกลางด้วยกัน คำถามจึงตามมาว่า ไอ้คนจัดผู้ตัดสินมันเป็นใคร ชาติไหน และจัดแบบนี้โดยใช้ หลักการ อะไร

อาเหม็ด อาบู บาการ์ ซาอิด อัลคาฟ คือชื่อเต็ม ของผู้ตัดสินจากประเทศ โอมาน ที่มีชายแดนทางภาคตะวันตกติดกับ ซาอุดีอาระเบีย ตามลักษณะทางภูมิศาสตร์ ถ้านึกไม่ออกก็ให้จินตนาการชายแดนไทย-พม่าที่ สวนผึ้ง หรือสุดเขตสยามที่ ห้วยคอกหมู ของ จ.ราชบุรี อยู่ติดกับ พม่า แค่เดินก้าวเดียวเท่านั้น แถมยังสื่อสารภาษาเดียวกันด้วย จำเป็นแค่ไหนที่ต้องใช้ ผู้ตัดสิน จากประเทศที่มีความสัมพันธ์ ใกล้ชิด กันขนาดนี้ มาปฏิบัติหน้าที่

ในขณะที่มีผู้ตัดสินจากประเทศที่เอ่ยชื่อแล้วเหมาะสมและดูเป็นกลางมากกว่าอย่าง จีน, เกาหลี, อุซเบกิสถาน หรือ ออสเตรเลีย ยกเว้น ญี่ปุ่น (ที่อาจจะถูกมองว่าทีมชาติไทยใช้บริการโค้ชญี่ปุ่นอยู่)

ในมุมมองบางตอนของสื่อต่างประเทศที่เป็นกลางไม่ได้เข้าใครออกใครอย่าง ฟ็อกซ์ สปอร์ตส ยิ่งชัดเจนว่าการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินคนนี้ที่ชี้ให้ทีมไทยเสียจุดโทษว่ายัง เป็นที่ถกเถียง กันและ เต็มไปด้วยคำถาม รวมถึง ความน่าสงสัย (in controversial fashion and questionable penalty....) ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ นี่มันบังอาจ ปล้น กันหน้าตาเฉย ต่อหน้าต่อตาของบิ๊กตำรวจไทย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคม เชียวหรือ?

เคยเขียนไว้เมื่อไม่นานนักว่า สมาคมฟุตบอลไทย ในยุคนี้มีข้อด้อยที่ ขาดบารมี ในแวดวงผู้ตัดสินระดับนานาชาติ และด้วยเหตุนี้เมื่อวานจึงถูก ลงโทษ อุตส่าห์ลงทุนสร้าง ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ไปเป็นร้อยล้านพันล้าน สุดท้ายก็ไป ตายตอนจบ กับนกหวีดปรี๊ดเดียว

“วีเออาร์”
klookwongnai@gmail.com