อย่าย่ามใจ

เป็นช่วงจังหวะเวลาที่ไล่เลี่ยกัน หนึ่งนั้นเกิดปัญหาในการตัดสินฟุตบอลไทยลีก 2019 นัดรองสุด ท้าย คู่ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เปิดบ้านเอาชนะ การท่าเรือ เอฟซี ไป 3-1 ซึ่งทำให้ บุรีรัมย์ มีโอกาส ที่จะคว้าแชมป์สูงมากพูดได้ว่าเกือบ จะอยู่ในมือเลยก็ว่าได้

ซึ่งแฟนบอลมากมายติดใจและสงสัยในการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน นที ชูสุวรรณ ในนัดนั้น

ใครที่ดูเกมในวันนั้นทั้งที่สนามและผ่านการถ่ายทอดสดคงจะเห็นชัดว่าการตัดสินค้านสายตาอยู่หลายจุด และจุดที่เกิดนั้นก็ส่งผลถึงการแพ้ชนะเสียด้วย นั่นทำให้บรรยากาศมากด้วยอารมณ์ความรู้สึก มีทั้งผู้ที่สาปส่ง ผิดหวัง และก็ยังมีผู้ที่ “เริงร่า”

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีข่าวลือออกมาถึงสโมสร “พลังเพลิง” พีทีที ระยอง ส่อจะมีการยุติส่งทีมแข่งในฤดูกาลหน้า ด้วยอาจจะถูกตัดงบประมาณจากผู้สนับสนุนหลักของทีม หลังทางทีมมีการนัดหมายสื่อมวลชนสายกีฬาว่าจะมีการแถลง

ข่าวใหญ่ในวันที่ 28 ต.ค. ซึ่งทุกสำนักก็เชื่อว่าจะเป็นเรื่องนี้

ไม่เพียงในเชิงกีฬาที่มีการวิพากษ์วิจารณ์

อย่างหนัก หากมีการตัดการสนับสนุนจริง จะส่งผลต่อนักเตะ ทีมงาน สตาฟฟ์โค้ช และรวมถึงแฟนบอลอย่างรุนแรง ในเชิงธุรกิจ

ก็มีการหยิบยกมาพูดถึง ในมุมของการทำฟุตบอลอาชีพโดยบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่เข้ามาอุ้ม เป็นการทำธุรกิจ หรือ “ซีเอสอาร์”

ถ้าเป็นธุรกิจ ผลกำไรขาดทุนเป็นตัวกำหนด แน่นอนว่าฟุตบอลอาชีพนั้นส่วนมากขาดทุนและไม่ใช่ขาดทุนน้อยๆ แต่หากเป็น “ซีเอสอาร์” ก็จะเป็นอีกเรื่อง ย่อมเป็นการใช้งบประมาณในอีกลักษณะหนึ่งเพื่อสังคม ชุมชน หรืออาจจะผสมกับ “พีอาร์” เพื่อสร้างภาพลักษณ์บวกเข้าไปด้วย การทำฟุตบอลอาชีพก็น่าจะอยู่ในข่ายและเกิดประโยชน์

จาก 2 เรื่อง ในช่วงเวลาที่ใกล้ๆกันนี้ แม้ดูไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ละม้ายคล้ายเป็นคนละเรื่องเดียวกัน!

ฟุตบอล โดยเฉพาะฟุตบอลอาชีพ ซึ่งต้องมีการลงทุน แพ้ชนะกันในเกมก็ว่ากันไปด้วยเรื่องของศักยภาพและความสามารถในเชิงกีฬา ซึ่งทุกทีมพยายามทุ่มเททั้งเงินและแนวทางเพื่อให้ทีมสมบูรณ์แบบที่สุดในปัจจัยที่มีอยู่

สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในฐานะผู้กำกับดูแล เป็นเจ้าของเกม จะตั้งบริษัทนิติบุคคลอะไรขึ้นมาก็แล้วแต่ ก็เป็นของสมาคมนั่นแหละ

สมาคมเอาไทยลีกไปทำสิทธิประโยชน์ หาประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเอาเงินกลับมาบริหารจัดการ เพื่อประโยชน์ของกีฬาฟุตบอลชาติไทยโดยรวม เงินเดือนที่รับกันอยู่ก็มาจากส่วนนี้ทั้งสิ้น

หน้าที่คือการบริหารจัดการลีกให้ดีที่สุด ให้เป็นที่ศรัทธา ชื่นชอบของแฟนบอล ถ้าปล่อยให้เกิดการตัดสินที่ผิดพลาดซ้ำซาก แม้ไม่รู้เห็นเป็นใจก็ย่ำแย่อยู่แล้ว ที่ผ่านมาโชว์ภาพจับล้มบอล บ้างก็ขู่โน่นขู่นี่ มีลงโทษผู้ตัดสิน บางกรณีก็เร็วจัด บางกรณีก็แตกต่าง เมื่อต่างมาตรฐานย่อมไม่เป็นผลดี

หากยังไม่สร้างความเชื่อมั่นให้เกิด นอกจากไม่เชื่อ ซ้ำร้ายหากถูกมองว่าไปเอื้อประโยชน์ให้ใคร ก็ยิ่งซ้ำเติมเป็นเท่าทวีคูณ

ใครจะอยากยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นสโมสรสมาชิก แฟนบอล ผู้สนับสนุน ซึ่งจะส่งผลตรงต่อธุรกิจและสิทธิประโยชน์ เส้นเลือดหลัก

ระวังจะเหลือคนกันเองไม่กี่ทีม แฟนบอล สปอนเซอร์หายหมด!

และหากเป็นเช่นนั้น จะมอบถ้วยที่ไหนเมื่อไหร่ หรือจะเซ็นสิทธิประโยชน์ล่วงหน้าให้ใครยาวแค่ไหน

มีเครือข่ายครบวงจรเพียงไร ก็คงไม่สำคัญ

อย่าย่ามใจนัก ถ้าแก่นแท้ของฟุตบอลอาชีพสลายไป จะเชิดหน้ากันอยู่ได้อย่างไร...

“เบี้ยหงาย”