หน้าแรกแกลเลอรี่

"พิพัฒน์" มีแผนสร้างสเตเดียม 1 แสนที่นั่ง รับบอลโลก

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

6 ต.ค. 2562 15:30 น.

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกีฬา เตรียมชงเรื่องไทยพร้อมร่วมกับชาติอาเซียนเสนอตัวจัดฟุตบอลโลก 2034 ในการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน วันที่ 9 ตุลาคมนี้ ที่ฟิลิปปินส์ โดยมอบให้โชติ ตราชู ปลัดกระทรวงกีฬา เป็นหัวหน้าคณะทำงานในเรื่องนี้ พร้อมให้ปรับปรุงสนามจัดการแข่งขันให้ได้มาตรฐานตามที่ฟีฟ่ากำหนด และมีแผนที่จะสร้างสนามที่สามารถรองรับผู้ชมได้ถึง 1 แสนที่นั่งขึ้นมาใหม่ด้วย พร้อมชูจุดแข็งของไทยอยู่ที่การคมนาคม สิ่งอำนวยความสะดวก ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมนำคณะผู้แทนจากประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน ครั้งที่ 5 และการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 ในวันที่ 9 ตุลาคม 2562 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีวาระสำคัญในการประชุมอยู่ที่ความคืบหน้าของการจัดทำตัวชี้วัดสมรรถภาพทางกายของอาเซียน, การรายงานการจัดกิจกรรม ASEAN Sports Day คู่ขนาน กับวันอาเซียน (ASEAN Day) ประจำปี 2562, การรับรองบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) รวมถึงการพิจารณาและรับรองขอบเขตหน้าที่ (TOR) รัฐมนตรีกีฬาอาเซียน และรัฐมนตรีกีฬาอาเซียนญี่ปุ่น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะตัวแทนรัฐบาลไทย เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ เราเตรียมประเด็นสำคัญไปนำเสนอในที่ประชุม ว่าด้วยเรื่องการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2034 ของประเทศไทย ซึ่งหลังจากที่ได้ประชุมกับคณะทำงานได้แต่งตั้งให้ นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พร้อมปรับปรุงสนามจัดการแข่งขันให้ได้มาตรฐานตามที่ฟีฟ่ากำหนด และมีแผนที่จะสร้างสนามที่สามารถรองรับผู้ชมได้ถึง 1 แสนที่นั่งขึ้นมาใหม่ พร้อมชูจุดแข็งของประเทศไทยในเรื่องของการคมนาคม สิ่งอำนวยความสะดวก ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยว

“นโยบาย และโครงการที่สำคัญของรัฐบาลไทยที่จะนำเสนอในที่ประชุม จะมีประเด็นที่เกี่ยวกับการส่งเสริมทางการกีฬา ที่ประกอบด้วย ส่งเสริมกีฬาเพื่อมวลชน การสร้างศูนย์ฝึกกีฬา การจัดตั้งเมืองกีฬา ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ยกระดับการกีฬาเพื่อความบันเทิง ศูนย์กลางการกีฬาเชิงสุขภาพ และการจัดตั้งมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ โดยรัฐบาลไทยจะส่งเสริมกิจการในอุตสาหกรรมกีฬาที่ครอบคลุมสินค้าและการให้บริการในกลุ่มกีฬาและสุขภาพ อาทิ การผลิตเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา สื่อดิจิทัลและโทรทัศน์ การจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬา สโมสรกีฬาหรือสถาบันการกีฬา สถานบริการออกกำลังกาย และอาหารเพื่อสุขภาพ รัฐบาลเล็งเห็นในการประสานความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อผลักดันให้ประเทศสมาชิกอาเซียนขยายฐานทางการกีฬาในทุกสาขา” รัฐมนตรีกีฬากล่าว