ไทยรัฐออนไลน์
"โบดิซาร์ บันโดวิช" กุนซือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ "ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล" เฮดโค้ช พีที ประจวบ เอฟซี นำทีมแถลงความพร้อมก่อนเกม "โตโยต้า ลีก คัพ 2019" นัดชิงชนะเลิศ
วันที่ 26 ก.ย. 62 ณ ห้องแกรนด์มีรอซ ชั้น 3 โรงแรมอัลมีรอซ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด ร่วมกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มุ่งมั่นสร้างสรรค์บอลไทย จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ลีก คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ พีที ประจวบ เอฟซี ขึ้น
สำหรับงานแถลงข่าวครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก มร.เบนจามิน ตัน ที่ปรึกษาและผู้อำนวยการฝ่ายออกใบอนุญาตสโมสร สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, คุณสมชัย ศุภวิฑิตพัฒนา ผู้จัดการแผนกกิจกรรมการตลาดพิเศษ ฝ่ายการตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, คุณณัฐกมล วงษ์สด ตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด, นายอิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าบุคคล, คุณธารา พฤกษ์ชะอุ่ม รองประธานกรรมการอำนวยการ บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด, คุณโสพัฒน์ อินทรทูต ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายรายการกีฬา บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด, นาวาอากาศเอกปิยะพงษ์ ผิวอ่อน โตโยต้า ฟุตบอล แอมบาสเดอร์ และตัวแทนสโมสรเข้าร่วม
ซึ่ง มร.เบนจามิน กล่าวว่า “สวัสดีครับ ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ก่อนที่ผมจะเริ่มต้นกล่าว ผมขอขอบคุณไปยังผู้สนับสนุนของฟุตบอลรายการนี้อย่าง โตโยต้า ที่ไม่ใช่แค่เป็นสปอนเซอร์หลักของรายการ แต่เป็นเหมือนผู้ที่คอยอยู่เคียงข้างวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนานในทุกๆ ระดับอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับผู้สนับสนุนทุกๆ ท่านในที่นี้ด้วยครับ”
“ในฐานะฝ่ายจัดการแข่งขัน ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ฟุตบอลถ้วยรายการโตโยต้า ลีก คัพ ปีนี้ เดินทางมาถึงบทสรุปในรอบชิงชนะเลิศกันแล้ว และผมขอแสดงความยินดีกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ พีที ประจวบ เอฟซี 2 สโมสรที่เข้ามาสู่รอบนี้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี”
“ผมมั่นใจว่าเกมการแข่งขันในนัดสุดท้าย ที่เอสซีจี สเตเดี้ยม จะเป็นเกมที่เต็มไปด้วยความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ สมแก่การรอคอยของแฟนบอลไทยทุกคนอย่างแน่นอน ขออวยพรให้ทั้งสองทีมประสบความสำเร็จในนัดชิงชนะเลิศครั้งนี้ครับ”
ทาง โบซิดาร์ บันโดวิช หัวหน้าผู้ฝึกสอนของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า “ก่อนอื่นผมรู้สึกยินดีกับลูกทีมด้วย ที่ได้เข้าชิงชนะเลิศ โตโยต้า ลีก คัพ เป็นเรื่องดีที่สโมสรเราได้เข้าชิงถ้วยนี้ เนื่องจากสโมสรเราต้องการแชมป์อยู่แล้ว ในนามของสโมสร นักเตะของเราจะทำให้เต็มที่”
“ก็ถือเป็นความท้าทายใหม่ เพราะเราร้างราจากการเป็นแชมป์นี้มา 2 ปี ก็อยากจะได้ถ้วยนี้อีกครั้งหนึ่ง และเราก็พร้อมสำหรับเกมนี้ สำหรับทีมของเรา ทุกรายการถือว่ามีความสำคัญ อีกทั้งสโมสรก็ครบรอบ 10 ปีในปีนี้ด้วย ดังนั้นจึงมีความสำคัญยิ่งขึ้นไปอีก เราต้องทำให้เต็มที่ และเอาถ้วยนี้ให้ได้”
“แน่นอนว่าประจวบก็ต้องการถ้วยนี้เช่นกัน ก็ทำให้เรามีแรงกระตุ้น และพร้อมสำหรับเกมนี้ จริงๆ ผมไม่ได้ดูข้อมูลสถิติ แต่ก็ไม่คิดว่าเกมนี้จะง่าย เพราะประจวบเป็นทีมที่ดี ก็ยินดีกับโค้ชประจวบด้วย ที่ทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีล่าสุด ดังนั้นผมจึงไม่คิดว่าเกมนี้เป็นการเจอกันระหว่างทีมใหญ่กับทีมเล็ก เราต้องเตรียมตัวให้ดีในการแข่งครั้งนี้”
“ทีมเราพร้อม แม้จะมีปัญหาเล็กน้อย แต่มันก็คือฟุตบอล ต้องผ่านมันไปให้ได้ ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เป็นที่ปียาก เพราะต้องเตะทุก 3 วัน และต้องเดินทางด้วย แต่ปีนี้เราก็ได้ถ้วยซุปเปอร์คัพมาแล้วช่วงต้นฤดูกาล และยังมีลุ้นทั้ง โตโยต้า ลีก คัพ และโตโยต้า ไทยลีก”
“พีที ประจวบ เป็นทีมที่มีทีมเวิร์ค จะเห็นได้เวลาที่พวกเขาเล่น พวกเขารู้ว่าจะเล่นอย่างไรในสนาม ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของโค้ชและนักเตะพีที ประจวบ เพราะทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักเตะคนเดียว บางครั้งโค้ชก็ต้องทำให้นักเตะเก่งขึ้นในเกม จะเห็นว่า พีที ประจวบ ทำการบ้านมาดี แม้จะมีนักเตะ 1-2 คนที่ช่วยให้ทีมชนะได้ แต่ถ้าจะทำผลงานทีมให้ดีต่อเนื่อง ก็ต้องเล่นกันเป็นทีม ซึ่งก็เป็นข้อดีของ พีที ประจวบ”
“สุดท้ายนี้ก็ขอเชิญแฟนบอลบุรีรัมและประจวบเข้ามาเชียร์กันในเกมนี้ พวกเราเตรียมทีมเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเจอใคร”
ขณะที่ สุเชาว์ นุชนุ่ม กองกลางของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า “แน่นอนครับว่า ผมอยากจะสร้างตำนานอีกครั้ง แน่นอนการเล่นฟุตบอล การเข้าชิงชนะเลิศรายการนี้ก็ถือเป็นความสำเร็จส่วนหนึ่งของทีม แต่จริงๆ แล้วความสำเร็จสำหรับเราต้องเป็นการได้แชมป์ ผมเชื่อว่าพีที ประจวบ จะเตรียมตัวมาดี เราต้องพร้อมในการเจอเขา เกมนี้จะสนุกแน่นอน และผมก็จะสร้างตำนานต่อไป ด้วยการคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ก็ฝากไปถึงแฟนบอลด้วยว่า ใครมาไม่ได้ก็อยากให้กำลังใจผ่านจอทีวี แต่ถ้าใครมาที่สนามก็อยากให้ส่งเสียงดังๆ เพื่อกดดันคู่แข่ง และเป็นกำลังใจแก่เราครับ”
“กับโค้ชวัง ผมเคยลงเล่นฟุตบอลกับเขา ผมเคารพเขาเหมือนเป็นพี่คนหนึ่งของผม เราต้องเล่นเต็มที่ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นการให้เกียรติเขา และพีที ประจวบ ครับ”
ด้าน ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล หัวหน้าผู้ฝึกสอนของพีที ประจวบ เอฟซี กล่าวว่า “ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้คุมพีที ประจวบ และทำผลงานร่วมกับผู้บริหารที่ให้การสนับสนุนอย่างดี นี่เป็นครั้งแรกที่ทีมได้เข้าชิง แฟนบอลให้ความสนใจในนัดนี้มาก เรามีรถบัส 70 คัน ที่แฟนบอลเช่าเพื่อจะตามมาเชียร์ เราอาจจะพลิกประวัติศาสตร์ได้”
“ผมเชื่อว่า คนที่ดูฟุตบอลจะรู้ว่าบุรีรัมย์คือทีมอันดับ 1 ของไทย แต่การที่เข้ามาเชียร์เราในฐานะน้องใหม่ เราก็ต้องรอดูว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยถ้าเราแพ้ ก็อยากให้รู้ว่าเราก็ทำเต็มที่แล้วครับ”
“ในเกมนัดชิง เราไม่มีทางเลือก ตอนนี้ผมและทีมมั่นใจมาก นักเตะก็มุ่งมั่นมาก การเข้ามาถึงตรงนี้และเจอกับบุรีรัมย์ ตอนนี้เราพร้อมเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะเราเองก็ไม่มีผู้เล่นที่ติดแบนหรือเจ็บด้วย”
“บุรีรัมย์มีนักเตะคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดาวรุ่ง หรือนักเตะมากประสบการณ์อย่างสุเชาว์ บุรีรัมย์เป็นทีมระดับตำนานในตอนนี้ นักเตะบางคนเล่นอยู่ในรุ่นเดียวกับผม แล้วเขาก็ยังเล่นอยู่ ขณะที่นักเตะดาวรุ่งก็สร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลไทยด้วย อย่างสุภโชค หรือศุภณัฏฐ์ ผมเชื่อว่าเกมนัดชิงชนะเลิศนัดนี้จะเป็นเกมที่สนุกแน่นอน แต่พวกเขาก็มีจุดอ่อน แม้จะน้อยมากก็ตาม เพราะผมเชื่อว่าทุกทีมนั้นมีจุดอ่อนอยู่”
“การเจอกับบุรีรัมย์ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง สำหรับพีที ประจวบ และการเข้าชิงรายการที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ก็เป็นเกียรติของเรา เราอาจไม่เคยชนะพวกเขา แต่อย่างน้อยเราก็จะเป็นคู่แข่งที่สูสีสำหรับเขา สถิติมีไว้ทำลาย ครั้งนี้ผมอาจชนะพวกเขาก็ได้ครับ”
ส่วน สิโรจน์ ฉัตรทอง กองหน้าของพีที ประจวบ เอฟซี กล่าวว่า “ผมมั่นใจ และมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ในเกมนี้เราทำงานกันอย่างหนัก ทั้งโค้ช นักเตะ และทีมงาน เรามั่นใจในกันและกัน เราจะทำเต็มที่เพื่อการคว้าชัยชนะอย่างแน่นอนครับ”
โดยกติกาการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศนี้ ในเวลาปกติ แข่งขัน 90 นาที ครึ่งละ 45 นาที พักครึ่ง 15 นาที หากเสมอกัน ต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที โดยแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 15 นาที ไม่มีการพัก และถ้าหากยังเสมอกันอีกจะมีการดวลจุดโทษแบบ ABAB
สำหรับการเปลี่ยนตัวนักกีฬา ในเวลาแข่งขันปกติ 90 นาที สามารถเปลี่ยนตัวนักกีฬาสำรองได้ 3 คน และสามารถเปลี่ยนตัวนักกีฬาเพิ่มได้อีก 1 คน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หากทีมยังใช้โควตาเปลี่ยนตัวสำรองไม่ครบ 3 คน ในช่วงเวลาปกติ 90 นาที แล้วมีการต่อเวลาพิเศษ สามารถเปลี่ยนตัวให้ครบโควตา 3 คน และเพิ่มอีก 1 คน ในช่วงต่อเวลาพิเศษได้
โดยโตโยต้า ลีก คัพ นัดชิงชนะเลิศ คู่ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ พีที ประจวบ เอฟซี จะแข่งขันในวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2562 ณ สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง True4U, True Sport 2 และ True Sport HD 3.