เอเอฟซี จิ้มเลือกสนามช้างบุรีรัมย์ จัดศึกบอลชิงแชมป์เอเชีย

เอเอฟซีเลือกสนามช้าง อารีนา ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นสังเวียนฟาดแข้งฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2020 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปีหน้า โดย ยู จิน โฮ หัวหน้าฝ่ายเอเชียน คัพ เผยจากการตรวจสอบสนามของ “ปราสาทสายฟ้า” ต้องปรับปรุงเพิ่มบางส่วนเล็กน้อย พร้อมเชื่อมั่นทั้ง 4 สนามพร้อมทันส่งมอบ หลังได้รับทราบแผนงานที่เสนอมา จากนี้จะมาตรวจอีกครั้งในต้นเดือน พ.ย. ก่อนนัดส่งมอบ 15 ธ.ค.

ความเคลื่อนไหวการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ของประเทศไทย ในช่วงเดือน ม.ค.2563 โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขันและกิจกรรมฟุตบอลของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ได้เดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าของสนามแข่งขันครบทุกแห่งแล้ว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา เอเอฟซี และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯเดินทางตรวจสอบความคืบหน้าการปรับปรุงราชมังคลา กีฬาสถาน ถือเป็นสังเวียนหลักที่จะใช้ทั้งในพิธีเปิดและปิด ก่อนจะไปประชุมร่วมกับการกีฬาแห่งประ– เทศไทย (กกท.) หลังจากนั้น ยู จิน โฮ หัวหน้าฝ่ายเอเชียน คัพ เอเอฟซี กล่าวว่า จากที่ทราบกันว่า สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ไม่พร้อมสำหรับการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ทางเอเอฟซีได้ตัดสินใจเลือกสนามช้าง อารีนา ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งถือว่ามีความพร้อมในการจัดการแข่งขันมาทดแทนของเชียงใหม่ แต่อาจจะต้องปรับปรุงบางส่วนเล็กน้อย ทางเราก็มีข้อกำหนดที่จะรวบรวมเป็นเอกสารและส่งมอบให้กับบุรีรัมย์ต่อไป

หัวหน้าฝ่ายเอเชียน คัพ กล่าวอีกว่า ในส่วนของราชมังคลากีฬาสถานได้มีการไปตรวจสอบในหลายส่วน และทาง กกท.ก็ได้ดำเนินการและอธิบายแผนงานที่จะปรับปรุงสนาม ทางเราก็รับทราบ และติดตามต่อไป ซึ่งหลังจากที่ได้เดินทางมาตรวจสนามในหลายครั้ง รวมถึงแผนงานต่างๆที่เสนอมาให้เราได้ดู เชื่อว่าทั้ง 4 สนามจะมีความพร้อมและส่งมอบจัดการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ได้สำเร็จ

ทั้งนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขันและกิจกรรมฟุตบอล เอเอฟซีจะจัดพิธีจับสลากแบ่งสายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ โรงแรม สวิส โซเทล รัชดา ในวันที่ 26 ก.ย. เวลา 14.30 น. นอกจากนี้ เอเอฟซีมีกำหนดการเดินทางมาประเทศไทย เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าการปรับปรุงสนามอีกครั้งในช่วงต้นเดือน พ.ย. และจะส่งมอบภายในวันที่ 15 ธ.ค.ต่อไป