แม่ลูกจันทร์
เอ่ยชื่อ “อัสสัมชัญ ศรีราชา” จ.ชลบุรี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน น้อยคนที่จะไม่รู้จัก เพราะนี่คือโรงเรียนแห่งความ ฝันของนักเรียน เพราะเป็นโรงเรียนที่มีความมุ่งมั่น จนเดินหน้าเข้าสู่ความเก่งกาจทั้งด้าน การเรียน การสอน และการกีฬา
ลูกหลานของผมทุกคนเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนแห่งนี้ เป็นจุดที่ส่งผลให้ผมต้องเดินทางไปรับไปส่งมาโดยตลอดหลายปี จากรุ่นลูกสู่รุ่นหลาน จนคุ้นชินและผูกพันกับสถาบันการศึกษาแห่งนี้มาอย่างยาวนาน แม้ผมไม่ใช่ผู้เรียนก็ตาม
เรื่องการเรียนการสอนไม่ต้องพูดถึง ยังคงเส้นคงวาในการผลิตนักเรียนให้ก้าวไปสู่ความเป็นเลิศทางด้านวิชาการได้อย่างต่อเนื่อง แต่ที่จะพูดถึงวันนี้เป็นเรื่องของกีฬา โดยเฉพาะ “ฟุตบอล”
อดีตที่ผ่านมา “อัสสัมชัญ ศรีราชา” เคยได้รับการขนานนามว่า เป็น “เจ้ายุทธจักรลูกหนังขาสั้น ภูธร” จากการมีทีมฟุตบอลที่แข็งแกร่ง ชนิดทีมใดที่ต้องเจอมีหนาวทุกทีมก็ละกัน
ที่แห่งนี้ได้สร้างนักเตะไปติดทีมชาติมาแล้วมากมาย อาทิ “เจ้าตี๋” สินทวีชัย หทัยรัตนกุล
หนึ่งในตำนานของฉลามชล ที่ขณะนี้ได้กลับคืนไปสู่อ้อมกอดของชาวฉลามชลอีกครั้ง และคาดว่าเขาคงจะแขวนสตั๊ดที่บ้านหลังนี้
แต่หลังจากปี พ.ศ.2554 ความเป็นเจ้ายุทธจักรลูกหนังขาสั้นภูธร ดูจะเริ่มจางหายไปจนแทบจะ เหลือเพียงแค่อดีต แต่ในที่สุดฟ้าก็ลิขิตให้ “อัสสัมชัญ ศรีราชา” จะได้กลับมาทวงคืนอดีตแห่งความยิ่งใหญ่ อีกครั้ง
หลังได้ “ภราดา ดร.วีรยุทธ บุญพราหมณ์” ซึ่งเป็นลูกหม้อขนานแท้ของชาว “ACS” เพราะเรียนที่นี่มาตั้งแต่อนุบาลยันมัธยม จนวันนี้ได้กลับ สู่อ้อมกอดของโรงเรียนที่เคยพร่ำสอนมาในตำแหน่ง “ผู้อำนวยการ”
ด้วยแนวนโยบาย!!! ถึงเวลาโอกาสดี 75 ปี เราต้องทำจริงจัง
เพื่อให้ทีมฟุตบอลย้อนกลับมาให้ได้ หลังเคย ได้แชมป์มาทุกรายการ แม้จะยังไม่เต็มร้อย เนื่องจากเป็นการมารับตำแหน่งใหม่ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากนัก เพียงแค่ให้ทีมฟุตบอลและกีฬาอื่นยังต้องมีอยู่ต่อไปเหมือนเดิม
แต่ในปีต่อๆไปต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น เพราะเห็นความสำคัญในจุดขายของโรงเรียน แถมมีศิษย์เก่าที่ยังภาคภูมิใจ ที่ยังเชื่อมั่นและที่ยังศรัทธาอยู่ พร้อมผลักดันให้ทีมฟุตบอลอัสสัมชัญ ศรีราชา เป็นหนึ่งอีกครั้งในระยะเวลา 3 ปี
ต้องยอมรับว่าเหนื่อยหน่อย เพราะช่วงนี้
ทีมอื่นเด็กเขาก็มีดีเยอะ ชาวอัสสัมชัญจึงต้องบูรณาการ การมีส่วนร่วมกับทั้งโค้ช นักกีฬาและผู้สนับสนุน ซึ่งจะไม่ใช่สนับสนุนเฉพาะฟุตบอลอย่างเดียว กีฬาอื่นก็จะส่งเสริมสนับสนุนคู่กันไปด้วย
การเริ่มต้นเดินหน้าทวงคืนบัลลังก์ จะเริ่มที่การจัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ของวงการลูกหนังนักเรียนไทย “ACS CUP ครั้งที่ 17” ขึ้นระหว่างวันที่ 29 ส.ค. ถึงวันที่ 5 ก.ย. ที่สนามสิรินธร ในโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา
หลังจากรายการนี้หายต๋อมลงทะเลไป 7 ปี
โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่างโรงเรียน-สมาคมศิษย์เก่า-สมาคมผู้ปกครองและครูของชาวอัสสัมชัญ ศรีราชา และกรมพลศึกษา เพื่อคัดขุนพลนักเตะเป็นตัวแทนนักเรียนทีมชาติไทยไปชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศจีน
ศึกนี้จะรวมบรรดา 8 ทีมมหาอำนาจลูกหนังขาสั้นมาลุยแข้งกัน 3 ทีมจากเครืออัสสัมชัญ ประกอบด้วย อัสสัมชัญ ศรีราชา-อัสสัมชัญ บางรัก-อัสสัมชัญ ธนบุรี
อีก 3 ทีมจากศึกจตุรมิตร ประกอบด้วย เทพศิรินทร์-สวนกุหลาบ-กรุงเทพคริสเตียน และอีก 2 ทีมจากเพื่อนร่วมเมืองชล โรงเรียนท่าข้าม- วิทยา (ชลบุรีเอฟซี) และ โรงเรียนสวนป่าเขา-ชะอางค์ แชมป์กรมพลศึกษาปี 2561
ศึกนี้! รายการนี้! สนามแห่งนี้! ดาวดังทั้งหลายแหล่ ทั้งอดีต-ปัจจุบัน ผ่านการสัมผัสกันมาแล้วทั้งสิ้น อาทิ “เจ้าเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ “เจ้าตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
“ชาวอัสสัมจะมุ่งมั่นส่งเสริมการเรียนรู้ให้ทันต่อความก้าวหน้าของโลกยุคปัจจุบัน เป็นแหล่งขุมทรัพย์ทางปัญญาที่ผลิตเยาวชนและบุคลากรสู่การเป็นทรัพยากรบุคคลที่ทรงคุณค่ายิ่งต่อสังคมไทยให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมในทุกรูปแบบ ทุกด้านอย่างแท้จริง” ภราดา ดร.วีรยุทธ บุญพราหมณ์ ยืนยันหนักแน่น
ไปตามดูเส้นทางช้างเผือกกันครับ!!!
“ไว เด่นชัย”