ได้ใครก่อน

การสรรหาผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติในรอบสอง ซึ่งปิดรับสมัครกันไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเบ็ดเสร็จมียื่นสมัครกันเข้ามารวม 7 คน 5 คน เป็นผู้ที่เสนอตัวเข้ามาใหม่ ได้แก่ วินัย เลิศธิตินันท์กุล, วีระศักดิ์ จิตใจภูรี, คุณากร เพชรคง, ปรางทิพย์ ยุวานนท์ อดีตผู้สมัครชิงผู้ว่าการ กกท. เมื่อปี 2556 และ สกล วรรณพงษ์ อดีตผู้ว่าการ กกท.คนก่อน

ส่วนอีก 2 คน เป็นผู้สมัครเดิมที่เสนอตัวมาในการสรรหาครั้งแรก สังเวียน บุญโต อดีตรอง ผู้ว่าการ กกท. และ สุปราณี คุปตาสา อดีตผู้สมัครชิงผู้ว่าการ กกท.ครั้งที่ผ่านมา และอดีตกรรมการกองทุนฯ ซึ่งทั้งคู่ไม่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการสรรหา

ซึ่งหาก 1 ใน 2 คนที่เคยสมัครครั้งแรกนี้ได้รับการสรรหาในครั้งที่ 2 ก็อาจจะมองแปลกๆอยู่เหมือนกันว่าแล้วตอนสรรหารอบแรก ที่คณะกรรมการสรรหาก็เป็นชุดเดียวกัน หลักเกณฑ์เดียวกัน ทำไมไม่เลือกกันตั้งแต่แรก หรือเพียงแค่เวลาเปลี่ยน ขยับออกไป จะทำให้คุณสมบัติของ 2 คนนี้ครบถ้วน แตกต่างไปจากเดิมหรือ ก็น่าสนใจดี สังคมคงจะรับรู้ กันเมื่อผลออกมา!

ส่วนหลังจากนี้เมื่อมีผู้สมัครเรียบร้อย ก็ต้องตรวจสอบคุณสมบัติ และประกาศรายชื่อเข้ากระบวนการ ซึ่งมีทั้งสอบภาษาอังกฤษ และการแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดเวลาออกมาชัดเจน เพียงวางกรอบกว้างๆไว้ว่าน่าจะได้ตัวผู้จัดการกองทุนฯ คนใหม่ ภายในเดือน ก.ค.

ขณะที่ภาพใหญ่ กับการรอคอยคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ และรวมถึงรองนายกรัฐมนตรีที่จะมากำกับดูแลกิจการงานกีฬา กับ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งถือเป็นผู้วางนโยบายและกำกับดูแลโดยตรง โดยงานส่วนนี้ จัดสรรให้กับพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร ทั้งรัฐมนตรีคนใหม่ที่คาดกันไว้ว่าจะเป็น พิพัฒน์ รัชกิจประการ และรองนายกฯ ซึ่งตามธรรมเนียมก็ต้องแบ่งงานให้มาดูกระทรวงในสายของตน ถ้ายังยึดตามเดิม ก็ต้องเป็น “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล

ถ้าไม่มีรายการพลิกล็อกกันทั้งสองท่าน ก็จะต้องเข้ามามีบทบาทในคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมถึงการแต่งตั้งกรรมการในองคาพยพต่างๆในสายงาน ซึ่งรวมถึงกรรมการสรรหาตำแหน่งต่างๆด้วย

ผู้จัดการกองทุนฯ กับรองนายกฯ และ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่ ใครจะได้นั่งทำงานก่อนกัน และกลไกควรจะเกี่ยวโยงต่อกันหรือไม่

จะต้องมีสรรหารอบ 3 กันรึเปล่า...

“เบี้ยหงาย”