เหนื่อยใจแทน

สมาคมลูกหนังไทยช่วงนี้ยังทำตัวเป็น สายล่อฟ้าให้โดนโจมตีอยู่ตลอดวันก่อน “ผู้การหลอ” พล.ต.วรวุฒิ ทองศรีงาม อดีตเลขาฯสมาคมลูกหนัง ก็ออกมาเตือนการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่กลัวหลงคำหวาน โดนคนกล่อมให้ทำโน่นทำนี่

โดยเฉพาะเรื่องที่สมาคมฟุตบอลจะขอการสนับสนุนสร้างสนามฟุตบอลและศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอล บนที่ดินของ กกท. โดยเอาสนามญี่ปุ่นเป็นต้นแบบ

ผมเห็นด้วยกับ “ผู้การหลอ” นะ เพราะการที่ผู้ใหญ่ของสมาคมลูกหนังมาขายฝันพยายามโน้มน้าวเพื่อเอางบของการกีฬาไปสร้างสนามนั้น จริงๆแล้วมันยังไม่ใช่ ยิ่งเมื่อดูจากผลงานของทีมช้างศึกตอนนี้ด้วยแล้วยังไงก็ไม่คุ้มค่า ลองนับนิ้วดูหลายรอบมีแต่จะเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์

ทั้งที่ความจริงสนามของการกีฬาเองก็มีอยู่เพียบ หากต้องการใช้จริง ก็ควรนำงบมาปรับปรุง คิดว่าน่าจะใช้งบประมาณที่น้อยกว่าหลายเท่า

และจริงๆแล้ว หากเอางบก้อนโตมาทุ่มสร้างสนามเพียงอย่างเดียวโดยที่ผลงานยังแย่อยู่แบบนี้ คิดว่าน่าจะเอาไปพัฒนานักกีฬาของแต่ละสมาคมน่าจะได้ผลที่คุ้มค่ากว่า เพราะทุกสมาคมมีภารกิจสำคัญที่ต้องไล่ล่าความสำเร็จในเกมระดับนานาชาติทั้งซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์

เอ! หรือมันจะมีอะไรแอบแฝงกับทางผู้บริหารของ กกท.บางคนตามเสียงร่ำลือกันจริงๆถึงพยายามผลักดันและคิดคล้อยตามกัน

พออีกวันถัดมา มาเจอกรณีของ “บิ๊กเปี๊ยก” ดร.องอาจ ก่อสินค้า อดีตประธานไทยพรีเมียร์ลีก ที่สวนกลับคำพูดของโฆษกสมาคมบอลฯ “พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน” ที่ดูแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องของฟุตบอลเท่าไหร่ ว่าควรทำอะไรหรือสิ่งไหนจำเป็นหรือสำคัญควรทำก่อนหลัง

แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านโฆษกชอบมองข้ามคือการรับฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะจากทุกสโมสรว่าควรทำอย่างไร เพื่อให้บอลลีกไทยก้าวเดินไปข้างหน้าแบบมีหลักเกณฑ์และมั่นคง ไม่ใช่รอวันถอยหลังลงคลอง

อย่าลืมว่าแต่ละสโมสรเขาลงทุนมหาศาลเพื่อสร้างความสำเร็จไม่ใช่แต่หลักล้าน แต่เป็นร้อยล้าน ดังนั้น สมาคมลูกหนังในฐานะเป็นองค์กรที่ควบคุมหรือพัฒนาก็ควรที่จะต้องรับฟัง และต้องคิดว่าทำอย่างไรให้ฟุตบอลเจริญก้าวหน้า ไม่ใช่แค่มานั่งแบบนี้ใครก็ทำได้

ประโยคนี้ “ไม่มีความรู้เรื่องฟุตบอล เล่นฟุตบอลไม่เป็น เตะฟุตบอลไม่ได้ ก็อย่าเข้ามาทำลายวงการฟุตบอลไทยเลย” ผมว่ากินใจและมีความหมายมากนะถ้าคิดกันดีๆ

เอาเถอะครับพูดไปก็เท่านั้น เด่วจะหาว่ามาจ้องจับผิดกันเปล่าๆ แต่ดูผลงานของช้างศึกตอนนี้แล้วทำให้หดหู่ใจจริงๆ

การที่ 2 อดีตผู้บริหารฟุตบอลออกมาเสนอแนะแบบนี้ผมถือว่าเป็นเรื่องดีนะ และเชื่อว่าทั้งคู่ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงเพียงแต่อยากเห็นวงการฟุตบอลไทยเติบโตและประสบความสำเร็จเท่านั้น

แต่ก็อยู่ที่ความคิดของท่านประมุขลูกหนังแหละครับว่าคิดอย่างไร.

ตองเจ