ไทยรัฐออนไลน์
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จับมือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เดินหน้าพัฒนานักเตะเยาวชนเตรียมระเบิดศึกฟุตบอลนัดพิเศษ “Return of The Legends” อดีตนักเตะปราสาทสายฟ้า ปะทะ ตำนานเสือเหลือง 18 พ.ย.นี้ ที่สนามช้าง อารีนา...
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลอันดับ 1 ของอาเซียน และทีมแชมป์ลีกไทย ฤดูกาล 2018 จับมือร่วมเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรชั้นนำจากบุนเดสลีกา เยอรมนี ซึ่งมีดีกรีแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1997 โดยการจับมือเป็นพันธมิตรร่วมกันระหว่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ดอร์ทมุนด์จะนำทีมรวมตำนานของสโมสร (Dortmund Legends) เดินทางออกมาทำกิจกรรมภายนอกประเทศเป็นครังแรก เพื่อปะทะแข้งกับ Buriram United OG (Original Gangsters) ทีมรวมอดีตนักเตะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รวมไปถึงจะมีการทำความร่วมมือที่จะพัฒนาฟุตบอลระดับเยาวชนร่วมกัน โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสร้างพันธมิตรในเอเชียของดอร์ทมุนด์ ซึ่งนอกจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แล้ว ก็ยังมีสโมสรชั้นนำในประเทศญี่ปุ่นและจีน
ด้าน นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวถึงการร่วมมือครั้งนี้ว่า ดอร์ทมุนด์ ถือเป็นหนึ่งในทีมที่พวกเราชื่นชอบสไตล์การเล่น และการบริหารจัดการทีมที่เป็นมืออาชีพอยู่แล้ว อีกทั้ง ดอร์ทมุนด์ ยังมีแฟนบอลที่ขึ้นชื่อเรื่องการเชียร์มากที่สุดในโลก แทบจะเรียกได้ว่าแฟนบอลเกือบเต็มในทุกนัดที่ลงแข่งขัน โดยเฉพาะ “Yellow wall” หรือ กำแพงสีเหลือง ของกองเชียร์ฝั่งหลังประตู ซึ่งเป็นสแตนด์ของตั๋วปีที่ขายหมดเกือบตลอด
“ถึงแม้ว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะมีประวัติศาตร์ที่น่าภาคภูมิใจ ในการประสบความสำเร็จที่ได้ 24 แชมป์ใน 9 ปีที่ผ่านมา แต่เราถือว่าเป็นสโมสรที่ยังมีอายุน้อย และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้เรียนรู้จากสโมสรชั้นนำอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในการร่วมมือครั้งนี้ ทั้งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีฐานแฟนบอลที่เหนียวแน่น ที่บุรีรัมย์ แฟนๆ ถูกเรียกว่า GU12 ซึ่งหมายถึงผู้เล่นคนที่ 12 และเช่นกัน สำหรับดอร์ทมุนด์ Yellow Wall หรือ กำแพงสีเหลือง ถูกใช้เรียกคลื่นมนุษย์ที่ใส่เสื้อสีเหลือง จำนวน 25,000 คน ที่อัฒจันทร์หลังประตู ทั้งสองสโมสรทำงานเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และตอบแทนแฟนบอลด้วยสไตล์การเล่นเกมบุกที่ดุดัน" นายเนวิน กล่าว
ขณะที่ นายทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า พวกเรามีความยินดีอย่างมากที่จะได้ร่วมมือกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ มีแฟนบอลที่เข้ามาสนับสนุนทีมเต็มสนามตลอดเวลาในทุกการแข่งขัน แมตช์ปะทะแข้งระหว่างตำนานของดอร์ทมุนด์ กับ อดีตนักเตะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาทีมร่วมกัน และยังรวมไปถึงการจับมือกันพัฒนานักกีฬาระดับเยาวชน เริ่มตั้งแต่ยู-9 ไปจนถึง ยู-19 และอาจจะมีโอกาสก้าวไปสู่ทีมชุดใหญ่ต่อไป ทั้งนี้ ทั้งสองทีมมีปรัชญาในการพัฒนาคล้ายกัน เช่นเดียวกันกับการแบ่งปันเทคนิคและข้อมูลที่ดอร์ทมุนด์ใช้ในการนำเทคโนโลยี, วิทยาศาสตร์การกีฬา, ระบบโครงสร้าง และการจัดการทีมเยาวชน มาใช้กับทีม ซึ่งถือเป็นสิ่งดีที่สุดและก้าวหน้าที่สุดในโลกของฟุตบอล การร่วมมือในครั้งนี้ ผู้เล่นเยาวชนจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการแลกเปลี่ยน และจะได้ประสบการณ์ชีวิตที่สโมสรมืออาชีพชั้นนำของยุโรปอย่างแน่นอน
ส่วน มร.คาร์สเทน คราเมอร์ Chief Marketing Officer of Borussia Dortmund กล่าวว่า สโมสรดอร์ทมุนด์ มีความยินดีเป็นอย่างมาก ที่เราและสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้มาเป็นพันธมิตรกัน โดยสิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ เรากำลังจะรวมทีมตำนานของดอร์ทมุนด์ มาลงเตะกับ อดีตนักเตะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอบคุณสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีความเชื่อมั่นต่อสโมสรดอร์ทมุนด์ ผมมั่นใจว่า ความพยายามในครั้งนี้จะนำมาสู่การพัฒนาระหว่างทั้งสองสโมสร สโมสรของเรายังได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญของบุนเดสลีกา ในภูมิภาคเอเชีย ที่จะมาช่วยสนับสนุนแมตช์สำคัญที่จะเกิดขึ้นที่บุรีรัมย์ เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับทีมงานของบุนเดสลีกา ซึ่งการสนับสนุนในครั้งนี้ทำให้เห็นว่า บุนเดสลีกาพร้อมที่จะเข้ามาช่วยยกระดับวงการฟุตบอลของเอเชีย
สำหรับฟุตบอลนัดพิเศษ “Return of The Legends” การแข่งขันระหว่าง อดีตนักเตะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ ตำนานนักเตะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2561 ที่สนามช้าง อารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ แฟนบอลสามารถเข้าชมฟรี ซึ่งในวันแข่งขันจะมีการรับบริจาคเงิน เพื่อมอบให้โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ไปจัดซื้อรถพยาบาล เพื่อใช้ในกิจการของโรงพยาบาลต่อไป