ไทยรัฐฉบับพิมพ์
แมนนี ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ ยอมรับผล การชก ที่ตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนนเจฟฟ์ฮอร์น ผู้ท้าชิงชาวออสเตรเลียด้วยคะแนนเอกฉันท์ จนเสียตำแหน่งแชมป์โลก รุ่นเวลเตอร์เวท ขององค์กรมวยโลก เมื่อวันอาทิตย์ที่เมืองบริสเบน ออสเตรเลีย แม้จะมีเสียงวิจารณ์อย่างมากว่า กรรมการตัดสินเข้าข้างนักชกเจ้าถิ่นมากเกินไป โดยยืนยันว่ามีสัญญาแก้มือกันอยู่ ในขณะที่ทีมงานของปาเกียวก็เห็นว่า ผลการชกน่าจะกลับข้างกับคำตัดสินที่ออกมา
วันที่ 3 ม.ค. ความเคลื่อนไหวหลังจบศึกมวยป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวท ขององค์กรมวยโลก (WBO) ซึ่ง แมนนี ปาเกียว เจ้าของตำแหน่งชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งยังเป็นวุฒิสมาชิกของแดนตากาล็อกด้วยวัย 38 ปี และเคยเป็นแชมป์โลกในพิกัดน้ำหนักต่างๆถึง 8 รุ่น แพ้คะแนนให้กับเจฟฟ์ ฮอร์น นักชกออสเตรเลียนวัย 29 ปี ซึ่งเคยมีอาชีพเป็นครู ไปอย่างเอกฉันท์ 111-117, 113-115 และ 113-115 ทำให้เจฟฟ์ ฮอร์น สร้างเซอร์ไพรส์คว้าแชมป์โลกได้อย่างพลิกความคาดหมาย และนับเป็นการปราชัยเป็นครั้งที่ 7 ในการชกมวยอาชีพของแมนนี ปาเกียว (ชก 68 ครั้ง ชนะน็อกเอาต์ 38 ครั้ง ชนะคะแนน 21 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง แพ้น็อก 3 ครั้ง และแพ้คะแนน 4 ครั้ง) และเพิ่มสถิติชัยชนะเป็นครั้งที่ 17 ของเจฟฟ์ ฮอร์น ซึ่งยังไม่เคยปราชัยใครในการชก 18 ครั้ง นอกเหนือจากการเสมออีก 1 ครั้งเท่านั้น
หลังการชกได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า กรรมการให้คะแนนเข้าข้างนักชกเจ้าถิ่น เพราะตัวเลขสถิติแสดงให้เห็นว่า แมนนี ปาเกียว ออกหมัดได้จะแจ้งมากกว่าเจฟฟ์ ฮอร์น เท่าตัว แต่ปาเกียวก็กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “นั่นคือการตัดสินของกรรมการ ซึ่งผมเคารพคำตัดสิน เรามีข้อตกลงเรื่องการแก้มืออยู่ในสัญญา เพราะฉะนั้น ไม่มีปัญหาอะไร ในขณะที่ ทีมงานของแมนนี ปาเกียว ต่างก็เห็นว่าเป็นชัยชนะที่ขัดสายตา และผลการชกน่าจะกลับด้านกันมากกว่า”