ไทยรัฐฉบับพิมพ์
“เงือกอุ้ม” ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง เงือกสาวทีมชาติไทยของสงขลา ยังครองความยิ่งใหญ่ เก็บส่งท้าย 1 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง คว้าตำแหน่งราชินีสระสงขลาเกมส์ ทำไปคนเดียว 7 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง ได้ตำแหน่งราชินีสระกีฬาแห่งชาติเป็นสมัยที่ 8 แล้ว และเมื่อรวมที่เจ้าตัวแข่งกีฬาแห่งชาติไป 12 ครั้ง ได้เหรียญเป็นกอบเป็นกำ 85 เหรียญทอง 16 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง ด้านสนามรักบี้ฟุตบอล ในกองบิน 56 การรักษาความปลอดภัยสุดเข้ม ทำนักกีฬาอึดอัดคนดูน้อย...
การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 45 “สงขลาเกมส์” ที่จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ในหลายสนามจะได้รับการตอบรับจากแฟนกีฬาเจ้าถิ่นเข้าชมกันอย่างคึกคัก แต่สนามอีกส่วนกลับเงียบเหงา โดยเฉพาะรักบี้ฟุตบอล ที่สนามกองบิน 56 ซึ่งแข่งขันประเภท 7 คน และ 15 คน มาตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. และจะไปจบการชิงชัยในวันที่ 30 มิ.ย. ทั้งนี้ จากการสังเกตการณ์พบว่า ก่อนเข้าสนามจะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ เมื่อถึงประตูกองบินต้องลงจากรถ เรียงลำดับเข้าแถวตรวจอาวุธ ซึ่งต้องใช้เวลานาน ทำให้นักกีฬาหลายคนอึดอัดอย่างเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับแฟนกีฬาที่จะเข้าไปชม เมื่อทราบว่าต้องถูกตรวจอย่างเข้มข้นและเสียเวลามาก ทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากเข้าไปดูกีฬานี้ ส่งผลให้คนดูน้อยลงไปด้วย ทั้งๆ ที่สนามแข่งขันอื่นในจังหวัดที่สามารถจัดรักบี้ฟุตบอลได้ ก็มีจำนวนมาก
ไฮไลต์การชิงชัยอยู่ที่ว่ายน้ำ วันสุดท้าย “เงือกอุ้ม” ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง เงือกสาวทีมชาติไทยของเจ้าภาพสงขลา เก็บเพิ่ม 1 เหรียญทอง จากฟรีสไตล์ 800 ม.หญิง 9.03.43 น. 1 เหรียญทองแดง จากผีเสื้อ 100 ม. 1.03.57 น. คว้าตำแหน่งราชินีสระสงขลาเกมส์ไปครอง ซึ่งเป็นสมัยที่ 8 ของเจ้าตัว ด้วยผลงานรวม 7 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง พร้อมทั้งพาเจ้าภาพเป็นเจ้าสระคว้าเหรียญมากที่สุดอีกด้วย โดยทำไปได้รวม 10 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง
“เงือกอุ้ม” ณัชฐานันตร์ ที่ลงแข่งขันกีฬาแห่งชาติไปถึง 12 ครั้งแล้ว ได้เหรียญรวมเป็นกอบเป็นกำทั้งหมด 85 เหรียญทอง 16 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง กล่าวว่า ยังคงว่ายน้ำต่อไป ส่วนซีเกมส์ ครั้งที่ 29 เดือน ส.ค.นี้ ที่มาเลเซีย ตั้งเป้าจะคว้าเหรียญทองรายการฟรีสไตล์ 100 ม., 200 ม.ให้ได้ แต่มีคู่แข่งอันตรายอย่างเวียดนามและสิงคโปร์ ที่ฝึกซ้อมอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
ส่วนเหรียญทองว่ายน้ำประเภทอื่น ผีเสื้อ 100 ม.ชาย ศิวัช มาตังคพงศ์ จากสงขลา 55.87 วิ., ผีเสื้อ 100 ม.หญิง ภัทรวดี กิติยะ จากเชียงใหม่ 1.00.93 น. (ทำลายสถิติเดิม), กบ 50 ม.ชายรดมยศ มาตเจือ จากชลบุรี 28.97 วิ,, ผลัดผสม 4×100 ม.ชาย ชลบุรี (รดมยศ มาตเจือ, เสฎฐวุฒิ มโนมัยสกุล, ตฤณภัทร โภคประเสริฐ, ธนกร อุดมธนกุลชัย) 03.55.41 น., ผลัดผสม 4×100 ม.หญิง กรุงเทพฯ (นวพรรษ พิษณุวงษ์, ขนิษฐา นิ่มดำ, ฝนปราย แย้มสรวล, เบ็ญจมาภรณ์ สังขะวัตร์) 04.28.07 น.
ทั้งนี้ ตำแหน่งเจ้าสระฝ่ายชายเป็นของ “ฉลามต่อ” รดมยศ จากชลบุรี คว้าไป 5 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ขณะที่รางวัลนักว่ายน้ำยอดเยี่ยม ฝ่ายหญิง “หมอนอิง” เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก จากอุดรธานี ฝ่ายชาย “ฉลามวิล” ศุภกฤษฏิ์ พนานุรัตน์ จากกรุงเทพฯ
ส่วนผลเหรียญทองกีฬาอื่นที่น่าสนใจ กาบัดดี้ ทีมนครศรีธรรมราช คว้า 2 เหรียญทอง ทั้งชายและหญิง โดยทีมชาย รอบชิงชนะเลิศ ชนะ กระบี่ 48-29 ได้แชมป์เป็นสมัยที่ 6 ขณะที่ทีมหญิง นัดชิงฯ ชนะเพชรบูรณ์ 50-34 ได้แชมป์ 8 สมัยติดต่อกัน
จักรยานภูเขา ครอสคันทรีอิลิมิเนชั่น ไม่เกิน 1 กม.ต่อรอบ ชาย กีรติ สุขประสาน จากปราจีนบุรี, หญิง ศุภักษร นันตะนะ จากอำนาจเจริญ, เทเบิลเทนนิส คู่ผสม กรุงเทพฯ (ศิรวิทย์ พวงทิพย์ กับอรวรรณ พาระนัง) ชนะ กรุงเทพฯ 2 (อภิชญา ศรีเทวฤทธิ์ กับณัฐชภัทร ศิริพัฒนานันทกูร) 3-0 เซต 11-5, 11-5, 11-9, ชายเดี่ยว ศรายุทธ ตันเจริญ จากฉะเชิงเทรา ชนะ ภัทรธร ภัสระ จากราชบุรี 4-3 เซต 11-9, 9-11, 11-2, 3-11, 11-9, 9-11, 11-7, หญิงเดี่ยว อรวรรณ พาระนัง จากกรุงเทพฯ ชนะ จิณห์นิภา เสวตรบุตร จากระนอง 4-2 เซต 7-11, 11-7, 9-11, 11-6, 11-7, 11-8, โบว์ลิ่ง มาสเตอร์ชาย ญาณพล ลาภอาภารัตน์ จากราชบุรี, มาสเตอร์หญิง ศริยา ช่องวารินทร์ จากกรุงเทพฯ
มวยไทยสมัครเล่น หยาดรุ้ง เต๊ะหิรัญ หรือ ชมมณี ส.เต๊ะหิรัญ แชมป์สุดสวยมวยไทยโลกจากสุพรรณบุรี ชนะอาร์เอสซี ปรัศนีย์ญา เหลือสืบชาติ จากบุรีรัมย์ ในยก 3 คว้าเหรียญทองรุ่น 57 กก.หญิง ตามคาด ขณะที่สาวสิงห์ ส.โสพิศ หรือรัชฎาพร วิหารธรรมเม จากสุพรรณบุรี ชนะคะแนน โสภาพรรณ ลิขิตตระกูล จากประจวบคีรีขันธ์ 30-27 คว้าเหรียญทอง รุ่น 60 กก.หญิง ส่วนเหรียญทองรุ่นอื่น รุ่น 45 กก.หญิง สมฤทัย สิริปทุม จากสุพรรณบุรี, รุ่น 48 กก.หญิง สุภิสรา คนหลัก จากสุพรรณบุรี, รุ่น 51 กก.หญิง นันทฉัตร วันเพ็ง จากพิษณุโลก, รุ่น 54 กก.หญิง ณัฎฐณิชา สุภารัตน์ จากประจวบคีรีขันธ์, รุ่น 63.5 กก.หญิง เจนจิรา หว้านเครือ จากมหาสารคาม
มวยสากลสมัครเล่น รุ่น 45 กก.หญิง รัชนีกร สีกะโดน จากนครราชสีมา, รุ่น 48 กก.หญิง ศิริวรรณ พึ่งปัญญา จากนครราชสีมา, รุ่น 51 กก.หญิง อาภาพร อินทองสี จากนครศรีธรรมราช, รุ่น 54 กก.หญิง ธารทิพย์ วรรณพรม จากนครราชสีมา, รุ่น 57 กก.หญิง ปรีดากมน ถิ่นทับไทย จากกำแพงเพชร, รุ่น 60 กก.หญิง จีระพักตร์ อินทร์คำ จากร้อยเอ็ด, รุ่น 64 กก.หญิง นิลาวัลย์ เตชะสืบ จากลำปาง, รุ่น 69 กก.หญิง สุดาพร สีสอนดี จากอุดรธานี, รุ่น 75 กก.หญิง เรวดี โพธิ์นอก จากนครราชสีมา
สรุปเหรียญรางวัลที่แต่ละจังหวัดได้รับเรียงตามลำดับเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง ดังนี้ อันดับ 1 กรุงเทพฯ 77-74-100, อันดับ 2 สงขลา 56-21-17, อันดับ 3 ชลบุรี 49-40-38, อันดับ 4 สุพรรณบุรี 39-27-37, อันดับ 5 อุดรธานี 38-7-11