หน้าแรกแกลเลอรี่

ไตรกีฬาชิงแชมป์ประเทศไทย เฟ้นหาเยาวชนลุย ยูธโอลิมปิก 2018

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

12 เม.ย. 2560 17:20 น.

สมาคมกีฬาไตรกีฬาฯ เตรียมระเบิดศึกไตรกีฬาชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2560 “Triathlon Thailand Championships 2017” ระหว่างวันที่ 21-23 เมษายนนี้ ที่แหลมแม่พิมพ์ อ.แกลง จ.ระยอง พร้อมกันนี้ยังจะเฟ้นหานักไตรกีฬาระดับเยาวชนจำนวนมาก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันควอลิฟายเข้าไปแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ที่บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา...


นายวิจิตร สิทธินาวิน นายกสมาคมกีฬาไตรกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมเตรียมจัดการแข่งขันไตรกีฬาชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2560 “Triathlon Thailand Championships 2017” ระหว่างวันที่ 21-23 เมษายนนี้ ที่แหลมแม่พิมพ์ อ.แกลง จ.ระยอง โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็นประเภท KIDs Triathlon ว่ายน้ำ 350 ม. +จักรยาน 10 กม. +วิ่ง 2.5 กม., Sprint Triathlon ว่ายน้ำ 750 ม. + จักรยาน 20 กม. +วิ่ง 5 กม. และ StandardTriathlon ว่ายน้ำ 1.5 กม. +จักรยาน 40 กม. +วิ่ง 10 กม. โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียด และสมัครได้ที่ โรงแรมสินสยามและโรงแรมแหลมแม่พิมพ์รีสอร์ต ชายหาดแหลมแม่พิมพ์ อ.แกลง จ.ระยอง หรือส่งใบสมัครได้ที่ อีเมล vijitriathlon@gmail.com ภายในวันที่ 19 เมษายน (ค่าสมัครจ่ายวันรายงานตัว) ไตรกีฬา Standard Triathlon 1,000 บาท, ไตรกีฬา Sprint Triathlon 500 บาท, KIDs Triathlon 200 บาท

นายกสมาคมกีฬาไตรกีฬา กล่าวว่า สมาคมต้องการเฟ้นหานักไตรกีฬาระดับเยาวชนจำนวนมาก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันควอลิฟายเข้าไปแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ที่บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา นอกจากนี้ ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ยังได้บรรจุไตรกีฬาประเภททีมผลัดผสม ชิงชัยเหรียญทอง ซึ่งนักกีฬาตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไปสามารถแข่งขันได้ และนักกีฬาไทยมีขีดความสามารถอยู่ในระดับเอเชียแล้ว สมาคมฯจึงได้วางแผนตามแนวทาง “โรดทูโตเกียว 2020” ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เพื่อจะส่งนักกีฬาไปแข่งขันให้ได้

“ศูนย์ฝึกไตรกีฬาที่สมาคมฯพยายามจะจัดตั้งให้ได้ทั่วประเทศ โดยล่าสุดมี 5 แห่ง คือ กรุงเทพฯ, ระยอง, เชียงใหม่, เชียงราย และพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้กำลังพิจารณาจังหวัดที่อยู่ภาคใต้ เพื่อคัดเลือกนักกีฬาให้ได้มากขึ้น โดยเล็งไว้ที่ จ.พัทลุง หรือภูเก็ต” นายวิจิตร กล่าวในตอนท้าย.