สร้างอย่างมีเป้าหมาย (ชัดเจน)

ความสำเร็จของทีมชาติไทย ยู17 กับการตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่ซาอุดิอารเบีย

ถือเป็นประตูบานแรก ที่จะสานฝันฟุตบอลไทยสู่บอลโลก ในรุ่นเล็ก อย่างเต็มภาคภูมิ

ทำให้ผมนึกถึงบทสัมภาษณ์ของทั้ง “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ กุนซือใหญ่ของทีมช้างศึกจูเนียร์ชุดนี้

ซึ่งระบุตรงกันว่า ทีมชาติไทย 17 ปีชุดปัจจุบัน คือความหวังสูงสุดของสมาคมลูกหนังไทย เป็นทีมแห่งอนาคตที่ถูกสร้างตามโมเดลของฟีฟ่า

ตั้งแต่การคัดเลือกตัวที่ตระเวณไปทั่วประเทศ จนได้แข้งหัวกะทิของรุ่นมาสู่ทีมช้างศึกรุ่นเล็ก

ทั้งในทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อาเซียน ต่อเนื่องมาถึงเกมคัดเลือกเอเชีย อย่างที่ได้เห็นกัน

โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากโรงเรียนต้นสังกัด และ อคาเดมีชั้นนำ ที่ปล่อยตัวนักเตะของตัวเองมารับใช้ชาติอย่างเต็มที่

และอคาเดมีที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ก็คือ ‘STB FOOTBALL ACADEMY’ ที่มีบิ๊กวินิจ เลิศรัตนชัย เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา

ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท สปอร์ต ไทย-บาวาเรีย จำกัด

เพื่อสร้างนักเตะรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพคับแก้วอย่างแท้จริง ขึ้นมาประดับวงการลูกหนังบ้านเรา

ซึ่งผลผลิตรุ่นแรกที่เริ่มทำโครงการกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยมา ตั้งแต่ปี 59 ก็ผลิดดอกออกผล จนกลายมาเป็นขุมกำลังหลักของทีมชาติ 17 ปี ชุดนี้

ไม่ว่าจะเป็น "เซปัก" จอมพล หอมบุญมา ศูนย์หน้าตัวกลั่น

“อชิ” ชัยวัฒน์ เงินมา มิดฟิลด์จอมทัพ

“ปั๊บ” ปรเมศ ละอองดี แนวรุกหัวฟูตัวจี๊ด

รวมไปถึงแข้งอนาคตไกล อย่าง . “กล้วย” ฆนรุจ กันภัย , “ปัณปัณ” ธนันต์ทัศน์ วัฒนะพูนสิน , “โฟล์ค” ภาณุพงศ์ วันอ่อน

“กาย” ภาณุพงศ์ พบสระใหญ่ , “โอม” กิตติภพ ชีพันคุง และ อีธาน เดวิด สเปียร์ส แข้งลูกครึ่งหนึ่งเดียว จาก International School Bangkok (ISB)

บิ๊กวินิจ บอกกับผมว่า อคาเดมี ของ STB ตั้งใจที่จะสร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้ประสบความสำเร็จทั้งในและนอกสนาม ควบคู่กันไป

โดยเราคัดเลือกนักเตะที่ฉายแววเข้ามารับทุนในโครงการมาแล้วกว่า 90 คน

ด้วยการเน้น 3 หลักการใหญ่ๆ เริ่มจากการเรียน การศึกษา , ระเบียบวินัย และ ฟุตบอล ที่ต้องควบคู่กันไปโดยตลอด จะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปไม่ได้

เพราะเราไม่ได้ต้องการแค่ “นักฟุตบอล” ที่มีฝีเท้าเก่งกาจ

แต่เราต้องการสร้างคนที่มีคุณภาพ ขึ้นมาในอาชีพฟุตบอล ซึ่งจะไปช่วยต่อยอดสิ่งที่ดีมีประโยชน์ในสังคมนี้ด้วย

จุดแข็งของ STB FOOTBALL ACADEMY คือเรื่องคอนเนคชั่นในการส่งนักเตะเยาวชน ไปฝึกฝีเท้าในรูปแบบมืออาชีพที่เยอรมันอย่างต่อเนื่อง

ในฐานะที่ สปอร์ต ไทย-บาวาเรีย เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของสโมสร บาเยิร์น มิวนิก

โดยที่ผ่านมา ผลผลิตชิ้นงามของ STB ก็คือ “ไมคอน คาร์โดโซ่” ไอ้หนูนักเตะบราซิลหัวใจไทย ลูกชายของ ดักลาส คาร์โดโซ่ อดีตหอกแซมบ้าผู้โด่งดังในศึกไทยลีก

ที่ได้รับโอกาส ในการเข้าร่วม FC Bayern Global Academy 2024 และได้รับเลือกต่อให้เข้าร่วมทีม FC Bayern World Squad 2024

ซึ่งถือเป็นขั้นตอนของการทดสอบเพื่อเข้าร่วมทีมเยาวชนเสือใต้ FC Bayern U17 ที่ถือเป็นก้าวสำคัญในอาชีพนักฟุตบอลของเขาต่อไป

และนอกจาก ไมคอน แล้ว ก็ยังมีอีก 2 แข้งเยาวชนทีมชาติไทย คือ ชัยวัฒน์ เงินมา กับ จอมพล หอมบุญมา ที่ถูกส่งไปฝึกวิทยายุทธลูกหนังในอคาเดมีบาเยิร์น ด้วยกัน

ก่อนจะถูกเรียกตัวกลับมาช่วยทีมชาติในเกมคัดเอเชียที่ผ่านมา และทั้งคู่ก็จะกลับไปเข้าแคมป์ที่เมืองเบียร์ต่อในช่วงเดือนนี้

ขณะเดียวกันทาง STB FOOTBALL ACADEMY ก็เพิ่งเปิดคัดเลือกแข้งเด็กรุ่นใหม่ เข้าร่วมรับทุนระยะยาวของอคาเดมี่

โดยเน้นทั้งหมด 4 รุ่น อายุ 9-12 ปี คือ เด็กที่เกิดปี พ.ศ. 2555 / 2556 / 2557 / 2558

ซึ่งการเปิดคัดที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากน้องๆเยาวชนทั่วประเทศ สมัครเข้ามาเกือบ 5,000 คน เลยทีเดียว

เสียงซอ เลิศรัตนชัย ผู้จัดการทีมสโมสร เอสทีบี ฟุตบอล อะคาเดมี่ เปิดเผยว่า

การเปิดคัดครั้งนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ไม่คิดว่าน้องๆจะมาเยอะขนาดนี้ แต่เด็กๆ น่าจะเฝ้ารอการคัดตัวร่วม 4 ปี และเราก็คัดถึง 4 รุ่น

เราอยากพัฒนาเยาวชนไทย ควบคู่ไปกับการศึกษา และก้าวสู่ความเป็นเลิศ

ซึ่งน้องๆปี 2551 ของเราติดทีมชาติ 17 ปีหลายคน นั่นคือความพยายามของเอสทีบี ที่บรรลุเป้าหมายอย่างยอดเยี่ยม

จากแข้งเด็กที่ร่วมคัดเหยียบ 5 พันชีวิต ถึงตอนนี้เราเฟ้นจนเหลือ 100 คนสุดท้ายแล้ว

ทั้งหมดจะถูกเรียกมาเข้าแคมป์เก็บตัวอย่างเข้มข้น เพื่อคัดเลือกจนเหลือ 50 คน ซึ่งจะได้รับทุนระยะยาวของโครงการต่อไป

นี่คือโอกาสของเด็กไทย กับอนาคตที่มีเป้าหมายชัดเจน ของ STB

โดยมีปลายยอดอยู่ที่การสร้างทีมช้างศึกยุคใหม่

แข้งช้างศึกแห่งความหวัง...ของแฟนฟุตบอลชาวไทยทั้งชาติ

ที่จับต้องได้ โดยไม่ต้องนอบละเมอ เพ้อพก อีกต่อไป !!!

- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com