คิดถึงอนาคต

จบไปแล้ว “เอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์” ครั้งที่ 6 หลัง “โอซีเอ” แจ้งยกเลิกไทยเป็นเจ้าภาพ พร้อมให้เหตุผล ยังไม่สามารถปลดล็อก เรื่องงบประมาณได้ และเวลาที่เหลือ กระชั้นชิดเกินไป

จะว่าไปแล้วไม่เหนือความคาดหมายและ “เห็นด้วย” กับการที่ต้องยกเลิกเพราะถ้าจะให้พูด ตามเนื้อผ้าในเรื่องความพร้อมกับการจัดเกมใหญ่แบบนี้ยังมีน้อยเกินไป

ลองคิดดูเหลือเวลา 3 เดือน กับจำนวนชนิด กีฬาที่เราจะจัดดูยังไงก็มองไม่ออกว่าจะจัดได้อย่างดี บอกตรงๆ ไม่อยากให้การเป็นเจ้าภาพของไทยเป็นการจัดแบบ “ผักชีโรยหน้า”

การจัดเกมใหญ่แบบนี้ความพร้อมถือเป็นเรื่อง สำคัญ ไม่แพ้เรื่องความสำเร็จที่คิดว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะนักกีฬาไทยซ้อมมานานเป็นปีแล้ว

ยิ่งในเรื่องของงบประมาณด้วยแล้วถือเป็นปัญหาใหญ่เข้าใจดีกับทุกฝ่ายทั้งในเรื่องจัดการแข่งขัน และรัฐบาลที่ออกมาโต้กันไปมาก่อนหน้านี้

สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ วันนี้งบประมาณของการกีฬามีไม่มาก หากเราต้องทุ่มงบก้อนโตเพื่อจัดให้ครบทั้ง 38 ชนิดกีฬา มันคุ้มค่าแค่ไหน

อย่างที่รู้กันว่านักกีฬาที่จะเข้าร่วมไม่ใช่ชุดใหญ่ หลายชาติอย่างจีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ที่ส่งมาก็เป็นเพียงรุ่นเล็ก การที่เราต้องทุ่มงบอย่างมหาศาล “มันได้ประโยชน์จริงหรือเปล่า”

ทบทวนอีกครั้งว่าลืมหรือเปล่าปีหน้า 2568 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ “ซีเกมส์” ที่ต้องใช้งบประมาณที่มากเช่นกัน และเป้าหมายชัดเจน “เจ้าเหรียญทอง” เราสมควรที่จะจัดงบประมาณสำหรับซีเกมส์น่าจะเหมาะสมกว่า

อย่าลืมงบประมาณในเรื่องของกีฬา เราไม่ได้มีเป็นแสนล้าน ที่เราจะจัดอะไรก็ได้

การจะจัดแต่ละทัวร์นาเมนต์ควรต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและก่อเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ที่สำคัญต้องวัดผลถึงความสำเร็จในอนาคตอย่าง “เอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์” ด้วย

สิ่งหนึ่งที่อยากถามว่าถ้าทุ่มงบก้อนโตเพื่ออินดอร์เกมส์อย่างเดียว มันส่งผลต่อความสำเร็จในมหกรรมกีฬาอย่างโอลิมปิกหรือเปล่า

สู้เราเอางบมาวางรากฐานในชนิดกีฬาที่เป็นสากลเพื่อต่อยอดไปสู่ความสำเร็จดีกว่าหรือเปล่า

ตอนนี้ความหวังในโอลิมปิกเกมส์เราเพิ่มจากเดิมแล้วจากเมื่อก่อนที่หวังแค่มวย, เทควันโด หรือยกน้ำหนัก ตอนนี้เรามีแบดมินตันมาอีกชนิด

การที่ “โอซีเอ” ยังเปิดช่องให้ไทยหากต้องการเป็นเจ้าภาพโดยให้เสนอตัวหลังจาก “ซาอุดีอาระเบีย” เป็นเจ้าภาพในปี 2025 ถือว่าเหมาะสม

อย่างน้อยมีเวลาให้เราเตรียมการแต่เนิ่นๆ น่าจะทำให้ทุกอย่างออกมาเพอร์เฟกต์และอยากฝากไว้ว่าถึงตอนนั้นก็อยากให้จัดชิงชัยไม่ต้องเยอะแค่ 20 ชนิดน่าจะเหมาะสม.

ตองเจ

คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม