หน้าแรกแกลเลอรี่

จังหวะเปลี่ยน

เบี้ยหงาย

17 ส.ค. 2567 04:35 น.

บ้านเมืองต้องมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง และดูจะเปลี่ยนกันบ่อยเกินไป เสียด้วย ส่วนจะชอบไม่ชอบ จะเปลี่ยน มากหรือน้อยหรือจะเปลี่ยนหัว แต่ตัวไม่เปลี่ยน ใครเคยคุมอะไรก็คุมกันต่อหรืออย่างไร

แต่เมื่อมันมีเหตุให้ต้อง “เปลี่ยน” ยังไงเสียก็ย่อมเป็นจังหวะ หรือโอกาสที่จะทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ที่เปลี่ยนไปจากเดิมได้ทั้งนั้น

ก็ต้องดูกันต่อไปในส่วนกิจการงานกีฬาของเรา เจ้ากระทรวง ทีมงาน จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ เชื่อว่าตอนนี้ที่จับยาม รอดูอยู่ก็บรรดาข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ ยิ่งในส่วนที่เกี่ยวโยง ใกล้ชิดในกลไกการบังคับบัญชา ยิ่งเฝ้ารอด้วยใจระทึก

โดยเฉพาะนโยบายต่างๆที่มีการวางกันไว้ รวมถึงตัวบุคคลที่จะเข้าสู่ตำแหน่งต่างๆ

รวมถึงเรื่องเฉพาะหน้าเร่งด่วนที่ค้างคาอย่าง การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งแนวโน้มที่ออกมาหลังสุด โอกาสเลิกสูงมาก

เพียงแต่จะเลิกจากฝั่งไหน โอซีเอ หรือ ไทยเรา

ว่าไปแล้วการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นนี้ ว่าไปแล้วน่าจะทำให้ตัดสินใจได้ง่าย และชอบด้วยเหตุผลเพิ่มเติมมากขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ!

ยังมีส่วนที่ต้องเปลี่ยนไปแน่ๆ ก็อย่างที่ทราบดีรัฐบาลยุคนายก เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องกีฬาเป็นอย่างมาก นอกจากในส่วนของกระทรวงและหน่วยงานด้านกีฬา ที่มีผู้รับผิดชอบเป็นการเฉพาะแล้ว ยังร่วมสนับสนุนขับเคลื่อนด้วย “ที่ปรึกษา” ของนายกรัฐมนตรีที่เข้ามาช่วยดูและรายงานตรงอีกทางหนึ่ง

เมื่อนายกรัฐมนตรีเปลี่ยน ก็ย่อมต้องเปลี่ยนไปตามนั้น ส่วนจะมีอะไรเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันในอนาคตหรือไม่ ก็ต้องรอดูกันต่อไป

เอาเป็นว่า เมื่อเป็นจังหวะของการเปลี่ยนแปลง ยังไงเสียก็ต้องมีการ “เปลี่ยน”

จงใช้โอกาสนี้ เปลี่ยนจากสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ผิดพลาด ให้เป็นเรื่องที่ดีกว่า หรืออะไรที่ควรทำ แล้วยังไม่ได้ทำ ก็ทำเสีย อะไรที่คิดว่าดี ถูกทาง ก็ต้องทำให้มากกว่าเดิม

หวังไว้ก่อน ได้ไม่ได้เดี๋ยวก็รู้

เปลี่ยนแล้ว ขอจงให้สังคมนี้ ประเทศนี้ ได้โอกาสที่ดีกว่า อย่าได้แย่ลงกว่าเดิมก็แล้วกัน...

“เบี้ยหงาย”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม