ไทยรัฐออนไลน์
ความหวังกับโจทย์บนความท้าทาย
ภายหลังไฟในกระถางคบเพลิงของปารีสเกมส์ 2024 ถูกจุดขึ้นอย่างเป็นทางการนักกีฬาซึ่งเป็นมวลหมู่สมาชิกของ IOC ทั่วโลกต่างผนึกพลังโชว์ลีลาและศักยภาพเพื่อแย่งความเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาต่างๆ กันอย่างขะมักเขม้น
ที่น่าสนใจในปารีสเกมส์ครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่า 2 มหาอำนาจโลกอย่างสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีนชาติใดจะกระชากเหรียญทองมาคล้องคอและนำไปอวดคนในชาติได้มากกว่ากัน
จากโจทย์ดังกล่าวแน่นอนหากส่องไปดูในมิติของพัฒนาการและความคงเส้นคงวาในชนิดกีฬาที่สองชาติเคยยืนหนึ่งมาก่อนก็พบว่าที่ผ่านมาเป็นไปอย่างไรวันนี้ก็ยังเป็นปรากฏการณ์ดังที่เห็นและเป็นไปเช่นเดิม
อย่างไรก็ตามเมื่อกล่าวถึงความเก่งกล้าสามารถทางการกีฬาในบางชนิดของ 2 ชาติดังกล่าวแล้ว นับจากวันนี้เมื่อกรีฑาซึ่งเป็นหนึ่งในชนิดแห่งความหวังของคนอเมริกันเปิดสนามให้ทัพนักกีฬาลงดวลศักยภาพเชื่อว่าตารางเหรียญโดยเฉพาะจำนวนเหรียญทองอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้
หันกลับมาที่ทัพไทยภายใต้นักกีฬา 51 ชีวิต ใน 17 ชนิดกีฬาวันนี้หลังจากแต่ละคนได้ลงสนามแสดงฝีมือก็พอจะประเมินได้ว่าศักยภาพของทัพไทยกับการเข้าร่วมในมหกรรมกีฬาอันยิ่งใหญ่ของโลก “ไทยเรา” ดีพอหรือไม่อย่างไรและโจทย์ใดที่ผู้เกี่ยวข้องต้องนำไปถอดบทเรียน
การลงสนามสู้ศึกในนามของคนทั้งชาติแน่นอนด้วยความมุ่งมั่นภายใต้เกียรติอันยิ่งใหญ่เชื่อว่านักกีฬาและทีมงานสตาฟฟ์โค้ชตลอดจนผู้เกี่ยวข้องที่ผนึกพลังร่วมอยู่เบื้องหลังคงจะทุ่มเทและใจเกินร้อยอย่างแน่นอน พร้อมกันนั้นหากพิจารณาถึงผลงานที่ผ่านมาก็เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าชนิดกีฬาใดที่ประสบความสำเร็จและเป็นไปตามเป้าแห่งความหวัง
เมื่อพูดถึงความหวังของทัพไทยกับโอกาสในการคว้าเหรียญรางวัลจากนี้ไปก่อนที่ไฟในกระถางคบเพลิงจะมอดลงเชื่อว่าการเดินหน้าไล่ล่าหาความสำเร็จภายใต้โจทย์บนความท้าทายก็คงจะยังมีให้เห็นและให้ลุ้นอีกต่อไป
เป้าหมายก่อนการเดินทางถูกวางไว้ที่ 6 เหรีญทองและเมื่อนำมาผนวกกับปรากฏการณ์ต่างๆ หากมองในมิติของคณิตศาสตร์และความเป็นจริงหรือบวกลบคูณหารแล้วถ้าจำนวนเหรียญจะลดลงจากเป้าเดิมก็ถือว่าไม่เสียหาย และยิ่งมองไปที่มิติของการเผยแพร่ชื่อเสียง เกียรติภูมิรวมทั้งวัฒนธรรมของสยามเมืองยิ้มหรือการมีสัมมาคารวะในสนามอย่างที่ “น้องเมย์” นักหวดลูกขนไทยได้โชว์ให้คนทั้งโลกได้เห็นก็ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
การสู้ศึกทุกรายการเมื่อนำปรัชญาหรือแก่นแท้ของการกีฬาที่ระบุว่า “การเข้าร่วมสำคัญกว่าชัยชนะ” ด้วยแล้วก็พอจะสรุปได้ว่าปารีสเกมส์ 2024 การที่นักกีฬาบางคนไม่ประสบความสำเร็จหากเข้าถึงสัจธรรมของแก่นแท้ดังกล่าว “เสียดายได้ แต่อย่าเสียใจ” การเดินหน้าเพื่อความสำเร็จแห่งอนาคตเป็นหนึ่งในมิติที่นักกีฬาพึงนำมาเป็นคาถาและวัตรปฏิบัติ
และเหนืออื่นใดจากนี้ไปความหวังกับโจทย์บนความท้าทายของทัพไทยทุกภาคส่วนโดยเฉพาะคอกีฬาทั่วทิศคงจะส่องไปที่วันที่ 7-9 สิงหาคม 2567 ทั้งนี้เพราะในวันดังกล่าว 3 จอมเตะทัพไทยซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาแห่งความหวังจะขึ้นสังเวียนพิสูจน์ศักดา
ยิ่งในวันที่ 7 สิงหาคม ด้วยแล้ว วันนั้นถือได้ว่าเป็นวันแห่งความตื่นเต้นและความหวังอันสูงสุดกับการรอคอยที่คนไทยต้องการเห็น “น้องเทนนิส” ภาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ สาวนักสู้จากเมืองคนดีสุราษฎร์ธานี สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการกระชากเหรียญทองเพื่อให้โลกและวงการกีฬาไทยได้บันทึกและจดจำ
คำกล่าวที่ว่า “สงครามสร้างวีรบุรุษ” ฉันใด วงการกีฬาไทยก็เป็นไปฉันนั้น จากปารีสเกมส์ 2024 วันนี้หากมองไปที่อนาคตของวงการกีฬาไทยก็พอจะเห็นแล้วว่าความหวังอันเนื่องมาจาก “เพชรเม็ดงาม” ที่ผ่านการเจียระไนมาอย่างยาวนานกำลังจะส่องประกายหรือฉายแววให้เห็นในเชิงประจักษ์สำหรับเกมการแข่งขันในอนาคต
แต่ความหวังภายใต้โจทย์บนความท้าทายของทัพไทยจะก้าวไปถึงหมุดหมายหรือไม่ วันนี้สิ่งที่คอกีฬาในฐานะทัพหลังที่กำลังรอร้องเพลงชาติไทยและลุ้นความสำเร็จตลอดจนความสุขที่จะตามมา คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการผนึกพลังร่วม “ร้อยแรงใจ ส่งแรงเชียร์” เพื่อให้ทัพนักกีฬาไทยประสบความสำเร็จในปารีสเกมส์ 2024” ก็ถือว่าสุดยอดอย่างเต็มคาราเบลแล้ว
รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร