ฟุตบอลไทยรายได้ต่ำ รสนิยมสูง โดย...กล้า ปีนเกลียว

ฤดูกาลเก่าจบไป ฤดูกาลใหม่ 2024-2025 ก็จะก้าวเข้ามา

สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ภายใต้นาวา มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ หญิงคนแรก ก็จะได้ปฐมฤกษ์ดำเนินการจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ภายใต้การบริหารของตัวเองแบบเต็มตัวในฤดูกาลแรก

ซึ่งการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศทั้ง ไทยลีก 1 2 3 นั้น ก็ถือได้ว่าเป็นภารกิจหลักของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

และในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ฟุตบอลไทยลีกของไทยก็คือ ห่านทองคำ ที่เป็นตัวขาย รายได้หลักของสมาคมฯ เลยก็ว่าได้

แต่ทว่าในยุคปัจจุบันนี้กลายเป็นว่า ฟุตบอลไทยลีกของเราดูเหมือนจะกลายเป็นเป็ดในบึงที่เจ้าของพยายามเลี้ยงดูปลุกปั้นหวังจะขายให้พอได้กำไรนิดหน่อยพออยู่ได้ เนื่องจากจะหวังให้เป็นห่านไข่ทองคำเหมือนในอดีตคงจะเป็นไปได้ยาก

แต่เป็ดดันราคาตกซะอีก

โดยล่าสุดราคาที่เคาะออกมา ราคาของลิขสิทธิ์ไทยลีก จากผู้ซื้ออยู่ที่ 300 ล้านบาทต่อฤดูกาล

ซึ่งเมื่อบวกลบคูณหารดูแล้ว มาดามแป้ง และสภากรรมการ ก็อาจจะต้องเอามือก่ายหน้าผากขยับขึ้นมาทันใด

สมมติว่า ฤดูกาลไทยลีกจะยึดของเดิมที่เคยจ่ายตามปกติคือ ค่าลิขสิทธิ์ทีมละ 20 ล้าน ราคาที่ต้องจ่ายคือ 320 ล้าน ให้กับ 16 ทีมไทยลีก

แค่นี้ก็ขาดทุนละ

ค่าถ่ายทอดสด 240 นัด 30 กว่าล้าน
ค่าเงินรางวัล 20 ล้าน
กรรมการผู้ตัดสิน 10 กว่าล้าน
ค่าดำเนินการจัดการแข่งขัน
งานประชาสัมพันธ์
รวมๆ แล้วก็มีต้นทุนราว 500 ล้าน

อันนี้เฉพาะไทยลีก 1 ลีกเดียวนะ

ยังมีหางเครื่องที่ต้องพ่วงไปด้วยอย่าง ไทยลีก 2 และ ไทยลีก 3 ที่มีค่าใช้จ่ายหนักเช่นกัน
ทีมละ 3 ล้าน 20 ทีม เป็น 60 ล้าน รางวัลอีก ผู้ตัดสินอีก

ไทยลีก 3 อีก

หวังที่เงินก้อนนี้ล้วนๆ เช่นกัน

รวมๆ เป็น 600 ล้าน

นั่นจึงเป็นที่มาว่า ถึงตอนนี้การถ่ายทอดสดจะไปออกช่องทางใด จะหารายได้เพิ่มยังไง จะลดรายจ่ายยังไง
เช่น ลดค่าใช้จ่ายวีเออาร์ เกมละ 5 หมื่น อีก 20 ล้าน ลดการถ่ายสดไทยลีก 2 ทำได้ไหม จะลดทีมหรือไม่

ไทยลีก 2024-2025 ปีแรกจึงเป็นเรื่องตึงมือ นายกหญิง เป็นอย่างยิ่ง

แล้วไหนตัวช่วยที่จะเข้ามาสนับสนุนซัพพอร์ตไทยลีกอย่าง บีจี ผู้สนับสนุนหลัก โบกมือลาทางใครทางมันไปอีก

งานนี้จึงนับว่าตึงจริงๆ

ก็คงต้องวัดใจนายกหญิงคนใหม่แหละว่า สุดท้ายจะเดินเครื่องให้สมราคามาดาม ให้เหมือนเดิมช่วงพีก ทำงานเหมือนเดิม ถ่ายทุกลีก อัตราจ่ายเท่าเดิม ค่าลิขสิทธิ์ คุณภาพถ่ายทอด วีเออาร์ ผู้ตัดสิน

หรือเอาตามกลไกการตลาด อุปสงค์ อุปทาน เท่าไรก็เท่านั้น ขายผ้าเอาหน้ารอดไปให้ได้

และอย่างที่ผู้เขียนเอาสมุดบัญชีมากางให้เห็นภาพคร่าวๆ ง่ายๆ นั่นแหละว่า งานนี้เหนื่อยแน่สำหรับการดำเนินการจัดการแข่งขันไทยลีก

หากรัฐบาลไม่ช่วย หากบิ๊กเน ไม่ช่วย อย่างที่รับปากไว้

มันจะไปต่อยังไง

ส่วนตัวผู้เขียนเองเห็นภาพแล้วก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่า หลายๆ อย่างก็ควรปรับลดให้เป็นไปตามความเหมาะสม
โดยปรับลดในเชิงคุณภาพ แต่ไม่ควรจะลดปริมาณ

เช่น ไม่ควรลดปริมาณการถ่ายทอดสดให้ครบทุกลีก โดยเฉพาะลีก 1 ลีก 2
ไม่ควรจะลดจำนวนทีม จำนวนแมตช์

แต่ควรลดคุณภาพที่ไม่ได้อยู่ในยุคเฟื่องฟู เช่น ลดวีเออาร์ได้ ลดสเปกการถ่ายทอดสดเหลือ 3-4 กล้องได้

แต่มีให้คนได้ดูเกมทุกเกมจากการถ่ายทอดจากไทยลีกเอง ไม่ใช่สโมสรที่มีปัญหาหลายมาตรฐาน ดูยาก เข้าใจยาก

ลดสเปกไฟสนาม ให้สนามต่างจังหวัดได้เตะภาคค่ำ สามารถใช้ไฟ 100-200 ลักซ์ เตะได้ดูได้

แค่นี้ก็นับว่าดีโขสำหรับยุคนี้ชั่วโมงนี้

ดีกว่า จะมีรสนิยมสูง แต่รายได้ต่ำ

ต้องมีวีเออาร์ ถ่ายทอดต้อง 8 กล้อง ไฟต้อง 600 ลักซ์ ผู้ตัดสินต้องฟีฟ่า

รสนิยมแบบนี้ ชั่วโมงนี้ ก็เห็นจะบรรลัยลูกเดียว