เอาจริง “กองทุนกีฬาชาติ” หนุนมวยไทย หวังผลักดันไปสู่ “โอลิมปิก” ชูองค์ประกอบครบสมบูรณ์

“กองทุนกีฬาชาติ” เผยบทบาทสนับสนุน “มวยไทย” พร้อมเดินหน้าผลักดันไปสู่ “โอลิมปิก” ชูองค์ประกอบครบสมบูรณ์ ได้การยอมรับทั่วโลก!

“ดร.หญิง” สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ หรือ NSDF หนึ่งในกำลังสำคัญ ร่วมผลักดันให้มวยไทยไปสู่โอลิมปิก เปิดเผยว่า ทางกองทุนฯ ได้สนับสนุน “มวยไทย” ทั้งในเชิงยุทธศาสตร์ ควบคู่กับการพัฒนาอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ เริ่มทำมาตั้งแต่มวยไทยธรรมดา มาจนถึง มวยไทยซอฟต์พาวเวอร์ คือมีการเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยกับอาหรับ อย่างเช่นประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งตอนนี้มวยไทยนอกจากจะเป็นกีฬาวัฒนธรรมแล้ว ยังได้การยอมรับเรื่องการไหว้ครูมวยไทย เพราะว่า No Wai Kru - No Muay Thai ไม่มีไหว้ครูก็ไม่ใช่มวยไทย นั่นคือความชัดเจน รวมถึงปี่พาทย์มวยไทยสด หรือจากเทป เพราะฉะนั้นความสมบูรณ์และองค์ประกอบของมวยไทยตอนนี้ถือว่าประเทศไทยทำได้ดีมาก โดยเฉพาะกองทุนฯ และคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่ผลักดันมาตลอด และติดตามอย่างเคร่งครัดและเข้มงวด เพื่อให้มวยไทยมีความเป็นวัฒนธรรมมาตลอด

ส่วนกีฬามวยไทยที่ได้อนุญาตให้จัดแข่งขันแบบอีเวนต์พิเศษ ในโอปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นกีฬาสาธิต อย่างที่มีการตีความและหลายคนเข้าใจกันก่อนหน้านี้ แต่ชี้เป็นชนิดกีฬาเดียวที่ได้รับอนุญาตให้จัดแข่งขันในพื้นที่ “โอลิมปิกปาร์ค” และเป็นเรื่องดีมาก ที่รัฐบาลไทยจะได้ใช้โอกาสนี้เดินหน้าหนุนกีฬามวยไทยสู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมวยไทยถือเป็นแกนนำสำคัญ เป็น soft power products ของไทย ได้อวดสายตาชาวโลก ได้ชื่นชมศิลปะการต่อสู้จากบรรพบุรุษจนทั่วโลกยอมรับ

จากการที่สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ได้แจ้งข่าวดีให้กับประเทศไทยรับทราบว่า ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ให้กีฬามวยไทยจัดแข่งขันแบบสเปเชียลอีเวนต์ ในระหว่างมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 26 กรกฎาคม-11 มิถุนายน 2567 ที่โอลิมปิกปาร์ค กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะถือเป็นก้าวสำคัญที่จะสานความฝันของคนไทยในการผลักดัน “มวยไทย” ให้เข้าบรรจุการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ในโอกาสต่อไป

สำหรับกีฬามวยไทย ถูกอนุญาตให้จัดแข่งขันสเปเชียลอีเวนต์ ที่โอลิมปิกปาร์ค กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เบื้องต้นจะมี 24 ชาติสมาชิกของ IFMA ส่งนักมวยไปร่วมแข่งขันแบบเต็มรูปแบบ มีการชิงเหรียญรางวัล โดยจะมีการแสดงปี่กลองมวยไทย การไหว้ครู ตามศิลปวัฒนธรรมมวยไทยที่ถูกต้องให้นักกีฬา รวมถึงเจ้าหน้าที่จากชาติต่างๆ ได้รับรู้ถึงศิลปะแม่ไม้มวยไทยที่มีต้นกำเนิดจากประเทศไทย ซึ่งการจัดแข่งขันมวยไทยในโอลิมปิกเกมส์ 2024 จะมี “บัวขาว บัญชาเมฆ” ร้อยโทสมบัติ บัญชาเมฆ นักมวยไทยชื่อดังวัย 42 ปี ชาว จ.สุรินทร์ ไปร่วมโชว์ไหว้ครูกลางมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ 2024 ด้วย

“ตนขอยืนยัน และอยากให้ทำความเข้าใจว่า กีฬามวยไทยยังไม่ได้เป็นกีฬาสาธิต ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ “มวยไทย” ได้รับโอกาสสำคัญ ให้เข้าไปจัดแข่งขันภายในโอลิมปิก ปาร์ค กรุงปารีส แบบสเปเชียลอีเวนต์ (Special Event) ซึ่งจะจัดแข่งขันแบบจริงจัง มีการชิงเหรียญรางวัลด้วย

ในพื้นที่ดังกล่าวจะมีคนผ่านไปมาไม่ต่ำกว่า 2 แสนคนต่อวัน ซึ่งตอนนี้หลายชาติเมื่อทราบข่าว ต่างตื่นเต้นที่อยากจะส่งนักกีฬามวยไทยเข้าแข่งขันในอีเวนต์พิเศษนี้ ช่วงที่กำลังมีการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่ปารีส ซึ่งก็อาจจะคัดเลือกนักกีฬาไปแข่งอีเวนต์พิเศษนี้จากศึกมวยไทยชิงแชมป์โลก 2024 (อิฟม่า ซีเนียร์ เวิลด์แชมเปียนชิพ 2024) ที่เมืองเพทรัส ประเทศกรีซ ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม-9 มิถุนายน 2567 โดยจะมีการประชุมสรุปรายละเอียดการจัดแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ 2024 อีกครั้งในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ ที่ประเทศกรีซ

“ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ที่อนุญาตให้มีการจัดกีฬาแข่งขันแบบจริงจังในพื้นที่โอลิมปิกปาร์ค โดย “มวยไทย” ถือเป็นชนิดกีฬาเดียวที่ได้รับอนุญาตให้จัดการแข่งขันในพื้นที่ดังกล่าวด้วย และมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ซึ่งก็ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากของประเทศไทย ของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ซึ่งก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมผลักดันสนับสนุนมวยไทยสู่ซอฟต์พาวเวอร์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ถือว่าน่าจะตอบโจทย์รัฐบาลไทยในการที่จะผลักดันและสนับสนุนให้มวยไทยเป็นฟูลซอฟต์พาวเวอร์อย่างแท้จริง

อยากให้รัฐบาลไทยเดินหน้าเต็มร้อย โปรโมตเผยแพร่ความเป็นไทยในเรื่องต่างๆ ทั้ง มวยไทย แฟชั่น ศิลปะ หรือวัฒนธรรมไทยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในโอกาสที่กีฬามวยไทยได้รับอนุญาตให้เข้าไปเป็นการแข่งขันแบบพิเศษ ในช่วงระหว่างที่มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งก็เป็นโอกาสสำคัญที่จะได้โปรโมตกิจกรรมผ่านกีฬามวยไทยในช่วงเวลานั้น ซึ่งก็เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มกระแสและมูลค่าของมวยไทย และปูทางไปสู่การที่มวยไทยจะได้มีโอกาสบรรจุแข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ในระยะเวลาหลังจากนี้”