ไทยรัฐออนไลน์
“สองล้อ” ส่ง 2 ซุปตาร์ “โกเมธ-จาย” ไปแข่งขันเตรียมสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์
วันที่ 28 มี.ค. 67 “สองล้อ” เดินหน้าส่ง 2 นักปั่นซุปตาร์ “โกเมธ สุขประเสริฐ” นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง และ “จาย อังค์สุธาสาวิทย์” นักปั่นประเภทลู่ ไปแข่งขันตามแผนเตรียมทีมโอลิมปิกเกมส์ 2024 โดย “โกเมธ” ที่ได้ตั๋วเรียบร้อยแล้ว จะไปแข่งขันรายการ “เทสต์ อีเวนท์” ที่สนามแข่งขันจริงของ “ปารีสเกมส์” วันที่ 4-7 เม.ย. 67 เพื่อศึกษาสนามและสภาพแวดล้อมล่วงหน้า ก่อนจะกลับมาป้องกันตำแหน่งในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่สนามสวนกีฬากมล วันที่ 29-31 พ.ค. 67 ส่วน “จาย” พร้อมสู้ศึก “เนชั่นส์ คัพ” ที่แคนาดา วันที่ 12-14 เม.ย. 67 โอกาสสดใสที่จะคว้าตั๋วใบที่ 5 ให้กับประเทศไทย เพราะชาติมหาอำนาจที่ได้โควตาไปแล้ว ส่งนักปั่นตัวสำรองลงชิงชัย ขณะที่ “เสธ.หมึก” ขอแรงใจจากพี่น้องประชาชนชาวไทย ส่งแรงใจเชียร์ 2 นักปั่นซุปตาร์ของไทยให้ประสบความสำเร็จตามแผนทุกประการ หากโชคเข้าข้างอาจมีเหรียญรางวัลกลับมาฝากเป็นของขวัญคนไทยทั้งประเทศ
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้เดินหน้าแผนการเตรียมความพร้อมของ “เอ้” ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่งมือหนึ่งทีมชาติไทย ชุดเตรียมโอลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งฝึกซ้อมภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของ มร.ฮาร์วี เครป ผู้ฝึกสอนชาวสวิตเซอร์แลนด์ และ “โค้ชบอส” นายอัถร ไชยมาโย หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวไทย โดยสมาคมฯ มีแผนจะส่งโกเมธเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง “เทสต์ อีเวนท์” ระหว่างวันที่ 4-7 เมษายน ที่เมืองแซงต์-เควนติน ประเทศฝรั่งเศส ห่างจากกรุงปารีส ประมาณ 40 กม. ซึ่งเป็นสนามแข่งขันจริงในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ทั้งบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง และประเภทลู่
พลเอกเดชา กล่าวว่า การส่งโกเมธไปประชันฝีเท้าในรายการ “เทสต์ อีเวนท์” ดังกล่าวถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ศึกษาสภาพสนามแข่งขันจริง รวมถึงสภาพแวดล้อมต่างๆ ก่อนที่จะถึงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ขณะที่ มร.ฮาร์วี เครป ระบุว่า ประโยชน์อีกประการในการแข่งขันรายการเทสต์ อีเวนท์ ก็คือรูปแบบการแข่งขันจะใช้ระบบใหม่ที่จะนำมาใช้ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งจะมีการแข่งขันรอบแรก 3 โมโต, รอบแก้ตัว 1 โมโต เพื่อคัดเอา 12 นักปั่นจากทั้งหมด 24 คน เข้าไปรอในรอบรองชนะเลิศ โดยนักปั่นที่ได้อันดับ 13-20 ของรอบแรก จะต้องมาแข่งขันรอบแก้ตัวเพื่อคัดอีก 4 คน เข้ารอบรองชนะเลิศ และในรอบรองชนะเลิศ จะใช้ระบบแข่งขัน 3 โมโต นักปั่นที่ดีที่สุด 8 คน เข้ารอบชิงชนะเลิศต่อไป
“หลังเสร็จสิ้นศึกเทสต์ อีเวนท์ แล้ว โกเมธก็จะเดินทางกลับเมืองไทยเพื่อฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น สำหรับการป้องกันตำแหน่งแชมป์เอเชียในการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 29-31 พฤษภาคม ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์สวนกีฬากมล ถนนสุวินทวงศ์ กทม. และเมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียแล้ว ก็จะฝึกซ้อมต่อเนื่องเพื่อเตรียมรับศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่งกำหนดแข่งระหว่างวันที่ 1-2 สิงหาคม ซึ่ง มร.ฮาร์วี ยืนยันว่าไม่จำเป็นที่โกเมธจะต้องเดินทางไปฝึกซ้อมยังต่างประเทศ เนื่องจากเมืองไทยมีสนามแข่งขันที่ได้มาตรฐานโลกอย่างสวนกีฬากมลฯ รวมถึงอุปกรณ์วิทยาศาสตร์การกีฬาที่ทันสมัย ภายในศูนย์ฝึกกีฬาในร่ม การกีฬาแห่งประเทศไทย ตลอดจนการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญในทุกๆ ด้านพร้อมอยู่แล้ว” พลเอกเดชา กล่าว
นอกจากนี้ พลเอกเดชา เปิดเผยอีกว่า ส่วนการคัดเลือกนักกีฬาจักรยานประเภทลู่ใน “ปารีสเกมส์” ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ในการแข่งขันจักรยานประเภทลู่เนชั่นส์ คัพ 2024 สนามที่ 3 ที่เมืองมิลตัน ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน จากคะแนนสะสมล่าสุด คะแนนคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ในประเภทคีรินของทีมชาติไทย โดย “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ อยู่ในเกณฑ์ที่จะผ่านการคัดเลือก 15 ชาติที่ดีที่สุด และคว้าตั๋วใบที่ 5 ให้กับประเทศไทย ซึ่งอันดับล่าสุดที่จะผ่านควอลิฟาย เป็นดังนี้ ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, สาธารณรัฐเช็ก ได้สิทธิ์ชาติละ 2 คน มาเลเซีย, นิวซีแลนด์, โคลอมเบีย, อิสราเอล, ซูรินาม, ไทย และตรินิแดด แอนด์ โตเบโก จะได้สิทธิ์ชาติละ 1 คน
“สำหรับเกณฑ์การคิดคะแนนนั้น สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) กำหนดให้คิดคะแนนดีที่สุด 2 ใน 3 สนามของรายการเนชั่นส์ คัพ ซึ่งจากสถานการณ์ล่าสุด ประเทศไทยมีคะแนนสะสม 2,701 คะแนน ตรินิแดดฯ มีคะแนนสะสม 2,524 คะแนน และอันดับถัดไปคือคาซัคสถานมีคะแนนสะสม 2,372 คะแนน ทำให้โอกาสของไทยที่จะผ่านควอลิฟายประเภทลู่โอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ มีโอกาสสูงมาก เนื่องจากทั้งตรินิแดดฯ และคาซัคสถาน จะต้องแซงผ่านไทยเราในการแข่งขันที่เมืองมิลตัน ในเงื่อนไขที่คาซัคสถานและตรินิแดดฯ จะต้องจบการแข่งขันในอันดับ 1-4 และส่วนไทยไม่มีคะแนน ซึ่งจากผลงานที่ผ่านๆ มา จายมีฝีเท้าเหนือกว่าสองนักปั่นคาซัคสถานมาโดยตลอด อีกทั้งการแข่งขันที่เมืองมิลตัน หลายชาติที่คะแนนผ่านควอลิฟายแน่นอนแล้ว อาทิ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ก็ไม่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน ขณะที่อีกหลายชาติ ทั้งสหราชอาณาจักร, มาเลเซีย และเยอรมนี ก็ส่งนักกีฬาตัวสำรองเข้าแข่งขัน จายต้องการเพียงผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ คะแนนก็จะเพียงพอต่อการควอลิฟายไปโอลิมปิกเกมส์” นายกสองล้อไทย กล่าว
ทั้งนี้ พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ที่ค่อนข้างสดใส ล่าสุด มร.เคร้ก แม็คลีน โค้ชคู่ใจของ “จาย” ซึ่งประจำอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ส่งแผนการเตรียมความพร้อมของจายในการสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ล่วงหน้า โดยจะให้จายเดินทางกลับมาเมืองไทยเพื่อพักผ่อนทันทีหลังเสร็จศึกเนชั่นส์ คัพ ในวันที่ 18 เมษายน ที่ประเทศแคนาดา หลังจากนั้นจะเดินทางกลับไปยังศูนย์ฝึกฯ เพื่อฝึกซ้อมในโปรแกรมที่เข้มข้นเตรียมสู้ศึก “ปารีสเกมส์” ในวันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งการแข่งขันประเภทลู่ในโอลิมปิกเกมส์กำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 5-11 สิงหาคม ที่สนามเวลโลโดรมแห่งชาติฝรั่งเศส เมืองแซงต์-เควนติน ต้องขอแรงใจจากพี่น้องประชาชนชาวไทยช่วยส่งแรงใจเชียร์ 2 ปั่นระดับซุปตาร์ให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันตามแผนที่กำหนดเอาไว้ และหากโชคเข้าข้างก็อาจจะสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญรางวัลเหรียญใดเหรียญหนึ่งมาฝากคนไทยทั้งประเทศได้เช่นกัน.