ออกกำลังกายช่วยได้

วิธีสังเกตตนเองง่ายๆที่บ่งบอก ว่าเรากำลังเป็นออฟฟิศซินโดรม “คอ บ่า ไหล่” อาการปวดของสายออฟฟิศมักมีอาการตั้งแต่ท้ายทอย คอ จนมาถึง บริเวณบ่า ซึ่งอาการปวดบริเวณเหล่านี้อาจมีอาการปวดได้หลากหลายแบบ ปวดตึง ปวดร้าว ปวดเกร็งจนขยับได้ลำบากคล้ายอาการตกหมอน

ส่วนใหญ่อาการที่สามารถพบได้ในสายออฟฟิศ มักเกิดปัญหาจากกล้ามเนื้อ ในคนที่ต้องก้มๆ เงยๆ อยู่ตลอดเวลาหรืออยู่ในท่าทางไหล่ห่อ คอยื่น ซึ่งมัก เป็นท่าที่มีผลต่อตัวกล้ามเนื้อมากกว่าโครงสร้างอื่นๆ กล้ามเนื้อเกิดการตึงตัวขึ้นและทำให้มีอาการปวดตามมา

สาเหตุหลักๆที่สามารถทำให้มีอาการได้ อาจเกิดจากการทำงาน การใช้งานเป็นเวลานาน พฤติกรรมรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน การออก กำลังกายโดยเฉพาะช่วงบน รวมถึงท่าทางการนอน

วิธีสังเกตอาการง่ายๆว่ามีสาเหตุจากกล้ามเนื้อ

ปวดร้าวตามกล้ามเนื้อของคอ บ่า ไหล่ ร้าว ขึ้นศีรษะ ท้ายทอย หรือสะบัก, อาการอาจปวด ตึง ตลอดเวลาหรือเฉพาะเวลานั่งทำงาน จ้องคอมพิวเตอร์ มือถือเป็นเวลานาน

มีอาการเมื่อยๆ ล้าๆ, มีจุดกดเจ็บ หรือสามารถคลำก้อนพังผืดในกล้ามเนื้อได้, อาการปวดจำกัดการเคลื่อนไหว

อาการเป็นๆ หายๆ ขึ้นกับการใช้งาน หากมี ระยะเวลาพักอาการก็ดีขึ้น แต่เมื่อกลับมาใช้งานอีกครั้งอาการก็กลับมา

และในบางรายรู้สึกแรงลดลง แรงไม่เท่าเดิมหรืออ่อนแรงร่วมด้วย จากการที่กล้ามเนื้อมีการหดค้างจึงเป็นผลให้แรงลดลง

แต่สิ่งสำคัญหากมีอาการปวดรุนแรง ปวดจน ไม่สามารถขยับได้คล้ายคอแข็ง ปวดร้าวลงแขนหรือมีอาการชาร่วมกับอ่อนแรง ปัญหานี้อาจมีผล จากโครงสร้างอื่นๆ เช่น เส้นประสาท หมอนรอง กระดูก ซึ่งลักษณะอาการค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกัน เพื่อนๆต้องคอยสังเกตด้วย

@@@@@@

เพจ May Clinic คลินิกนักวิ่งโดยหมอเมย์ ของ “หมอเมย์” พญ.สมิตดา สังขะโพธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟูชื่อดัง ได้อธิบายอาการของออฟฟิศซินโดรมเอาไว้อย่างละเอียด ทีเดียว

โดยเฉพาะสาเหตุ และอาการ ว่ามีอะไรบ้าง

แน่นอนว่าการป้องกันเบื้องต้นก็คงต้องผละออกจากงานบ้างในบางเวลา เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อในบริเวณต่างๆของร่างกายรับบทหนักจนเกินไป

แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ยังมีอีกวิธีที่น่าจะช่วยได้ ไม่มากก็น้อย นั่นคือการหาเวลาไปออกกำลังกายบ้าง น่าจะช่วยได้มาก

ไม่เพียงร่างกายเท่านั้นที่จะได้ผ่อนคลาย สมองของเราก็จะได้รีแลกซ์

ควบคู่กันไป...

ฟ้าคำราม

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่