หน้าแรกแกลเลอรี่

“สองล้อ” ลุ้น “จาย” คว้าตั๋วโอลิมปิก ลุยศึกใหญ่เก็บคะแนนเพิ่ม

ไทยรัฐออนไลน์

14 ม.ค. 2567 17:17 น.

“สองล้อ” ลุ้น “จาย” คว้าตั๋วโอลิมปิก ลุยศึกใหญ่เก็บคะแนนเพิ่มอีก 4 สนาม หวังสร้างประวัติศาสตร์ให้ ส.จักรยาน

“สองล้อ” ลุ้น “จาย อังค์สุธาสาวิทย์” คว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ชิงชัยรายการใหญ่อีก 4 สนาม ประเดิมด้วยจักรยานประเภทลู่ “ยูซีไอ แทร็ค เนชันส์คัพ 2024” สนามที่ 1 ที่ออสเตรเลีย ต่อด้วยการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่อินเดีย โดย “จาย” ตั้งเป้าหมายต้องเข้ารอบชิงชนะเลิศศึกเนชันส์คัพ ให้ได้อย่างน้อย 1 สนาม จากทั้งหมด 3 สนาม หาก “จาย” คว้าตั๋วโอลิมปิกสำเร็จ จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้แก่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ได้โควตาโอลิมปิกมากที่สุดถึง 5 ที่นั่ง

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ได้ประกาศรายชื่อนักปั่นที่ลงทะเบียนแข่งขันรายการใหญ่เปิดฤดูกาลแข่งขันจักรยานประเภทลู่ “ยูซีไอ แทร็ค เนชันส์คัพ 2024” สนามที่ 1 ที่เมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ปรากฏว่ามีนักปั่นทั่วโลกกว่า 40 ประเทศเข้าชิงชัย ในขณะที่ทีมชาติไทยจะมี “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ลงประชันฝีเท้าเพื่อเก็บคะแนนสะสมโค้งสุดท้ายลุ้นโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

พลเอกเดชา กล่าวว่า จากการสำรวจรายชื่อในประเภทคีริน ที่จายมีลุ้นผ่านควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ ปรากฏว่าในสนามนี้ เนเธอร์แลนด์ ที่มีนักปั่นดีกรีแชมป์โลกอย่าง แฮรี ลาฟเรย์เซน ไม่ส่งทีมเข้าแข่งขัน แต่ในขณะเดียวกัน ชาติที่แข็งแกร่งในการแข่งขันลู่ระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็น “เจ้าภาพ” ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี ต่างก็ส่งชุดใหญ่เข้าชิงชัย ส่วนคู่แข่งในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น, จีน, ไต้หวัน, คาซัคสถาน และมาเลเซีย ต่างก็ส่งนักปั่นเข้าร่วมการแข่งขันในระดับชุดใหญ่ โดยเฉพาะญี่ปุ่นและมาเลเซีย ที่นอกเหนือจากจะส่งทีมชาติ ซึ่งมาเลเซียมี “พ็อคเก็ต ร็อคเก็ต” อาวัง อาซิซุล ขณะที่ญี่ปุ่นมี ชินจิ นากาโนะ นำทัพแล้ว ทั้ง 2 ชาติยังมีทีมจักรยานลู่อาชีพส่งนักปั่นเข้าประชันฝีเท้าอีกต่างหาก โดยเฉพาะญี่ปุ่น มีทีมอาชีพส่งแข่งขันอีกสองทีม และแต่ละทีมก็มีนักกีฬาประเภทลู่ระยะสั้นระดับแถวหน้าอีกต่างหาก

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าทีมชาติไทยที่มีจายส่งเข้าแข่งขันเพียงคนเดียวจะดูเสียเปรียบก็ตาม แต่จายเองก็ไม่ได้แสดงความหวั่นเกรง เนื่องจากเขามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ตัวจากความพ่ายแพ้ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน เมื่อปลายปีที่แล้ว จายตั้งเป้าหมายไว้ว่าในการแข่งขันเนชันส์คัพ สนาม 1 อย่างน้อยจะต้องเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ เพื่อเก็บคะแนนสะสมให้ได้มากที่สุดเอาฤกษ์เอาชัย หลังจากนั้นก็จะเดินทางมาสมทบกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ที่จะเข้าแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 21-26 กุมภาพันธ์ ซึ่งรายการชิงแชมป์เอเชีย ก็เป็นอีกหนึ่งรายการเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ของการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ เช่นเดียวกับศึกเนชันส์คัพทั้ง 3 สนาม ที่ออสเตรเลีย, ฮ่องกง และสนามสุดท้ายที่มิลตัน ประเทศแคนาดา ช่วงต้นเดือนเมษายน ก็เป็นรายการสุดท้ายของการเก็บคะแนนคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ประเภทลู่

ทั้งนี้ พลเอกเดชา กล่าวว่า สถานการณ์ในปัจจุบัน คะแนนสะสมคัดโอลิมปิกเกมส์ของทีมชาติไทยในประเภทคีรินอยู่ในอันดับ 13 ซึ่งเป็นอันดับที่จะได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงปารีส ดังนั้น หากการแข่งขันคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ที่ยังเหลืออยู่อีก 4 รายการดังกล่าว จายยังคงรักษามาตรฐานเก็บคะแนนสะสมได้เหมือนในรอบปี 2566 ที่ผ่านมา ก็มีโอกาสสูงมากที่จายจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักปั่นประเภทลู่ชาวไทยคนแรกที่ผ่านควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ และก็จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เช่นเดียวกัน ที่จะมีนักกีฬาจักรยานสามารถผ่านควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ได้ในคราวเดียวกันถึง 5 ที่นั่ง จากที่ปัจจุบันทีมชาติไทยได้โควตาโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว 4 ที่นั่ง จากประเภทถนน 3 ที่นั่ง ได้แก่ โรดเรซบุคคลชาย, โรดเรซบุคคลหญิง, ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง และจากประเภทบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงชาย จากผลงานที่ “เอ้” ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ คว้าแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศฟิลิปปินส์.