เบี้ยหงาย
การอภิปรายพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วาระแรก ซึ่งเป็นครั้งแรกภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบันผ่านไปแล้ว คิดเห็นเป็นประการใดก็ว่ากันไป แต่นั่นก็หมายถึงการเข้ามาบริหารจัดการประเทศนี้ของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่จับต้องได้เต็มมือมากขึ้น
ไม่เพียงแค่รับไม้มาในช่วง 4 เดือนก่อน ตอนนี้ขยับไปวางแผนงาน แผนเงินได้มากขึ้น แม้ว่ายังมีหลายส่วนที่ตกทอดต่อเนื่อง ชอบไม่ชอบก็ต้องทำกันต่อตามครรลอง เป็นพัฒนาการไปตามระบบ
จากนี้ไปจะไม่ใช่เวลาของการเพิ่งเข้ามา ทดลองงานหรือปรับตัวเปลี่ยนผ่านอะไรก็ตาม แต่จะเป็นความรับผิดชอบภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้
ไม่ว่าบวกหรือลบ เป็นฝีมือที่เกิดขึ้นจากการเข้ามาทำหน้าที่ทั้งสิ้น
ในส่วนของกีฬาเรา หากจะดูงบประมาณภายใต้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้ 5,591 ล้านบาท ก็ถือว่าไม่ได้มากอะไร อยู่ในกลุ่มกระทรวงงบน้อยด้วยซ้ำ
แต่ก็ยังมีเม็ดเงินในเชิงยุทธศาสตร์ที่เอามาจับจ่ายใช้สอย ก็จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติปีละราวๆ 4 พันล้าน ส่วนนี้ถ้าฉลาดคิด ฉลาดทำ ฉลาดใช้ จะเป็นประโยชน์มหาศาล
ในทางตรงกันข้าม หากใช้ด้วยความแอบแฝง มีวาระซ่อนเร้นก็จะเสียของ ซ้ำร้ายหากเกิดการทุจริต คอร์รัปชัน ไม่ว่าจะเชิงนโยบายหรือแสวงหาประโยชน์จากการใช้เงินส่วนบุคคล อันนี้ยิ่งเลวร้ายหนัก!
ในกิจการงานกีฬา ซึ่งนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ชื่นชอบอยู่เดิม มีทั้งที่ปรึกษา ซึ่งเป็นคนกีฬาเข้ามาช่วยดู มีทั้งรองนายกรัฐมนตรี ปานปรีย์ พหิทธานุกร ในฐานะประธานบอร์ดการกีฬาฯ และ ประธานบอร์ดกองทุนฯ และมีทั้งผู้รับผิดชอบโดยตรงในฐานะเจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รมต.ปุ๋ง สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล
ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ทำอะไรไปได้บ้าง คนที่จะวิพากษ์ได้ดีที่สุดก็คนกีฬาทั้งหลายนั่นแหละ รับรู้รับทราบจากฝีไม้ลายมือกันได้มากน้อยแค่ไหน
ช่วงเวลาที่เข้ามาก่อนหน้านี้ หลายคนเป็นทั้งมือใหม่ ไม่ได้สัมผัสจับต้องกับเรื่องกีฬามาก่อน แม้มีที่ปรึกษาก็ตาม มีความเข้าใจปัญหา จุดแข็ง จุดอ่อน แสวงหาแนวทางแก้ไข พัฒนาเพียงไร และการขับเคลื่อนเป็นเอกภาพ เป็นทีม และมีความเข้าใจร่วมกันมากขนาดไหน
เอาเป็นว่าเวลาที่ผ่านไปนั้น ถือเป็นการ ทดลองงาน แต่จากนี้คือของจริงที่ต้องรับผิดชอบ ขับเคลื่อนด้วยความรอบรู้กันจริงๆแล้ว
ยิ่งปีนี้กีฬามีความหลากหลาย ทั้งมากด้วยกิจกรรม อีเวนต์ ทั้งในและต่างประเทศ ในส่วนขององค์กร กลไก และบุคคล ก็มีวงรอบของการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นองค์กรกีฬาอย่างคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่ครบวาระปีนี้ และจะเลือกตั้งต้นปีหน้า หรือระดับสมาคมกีฬาอย่างฟุตบอล รวมถึงบุคลากรในส่วนของรัฐ จะเป็นบอร์ดหรือผู้บริหารส่วนใด จัดวางกันอย่างไร
ซึ่งแต่ละส่วนแม้จะดูไม่เกี่ยวเนื่องกันโดยตรง แต่ก็เป็นกลไกที่จะต้องขับเคลื่อนไปด้วยกันจึงจะมีประสิทธิภาพ
กีฬายังมีเนื้องานอีกมากมาย มียุทธศาสตร์ที่ต้องขับเคลื่อนและเป็นประโยชน์มหาศาล ใช่จะมีแค่ มวยไทยซอฟต์พาวเวอร์ ที่ดูฉูดฉาด ตอบสนองนโยบายรัฐ ลอยเด่นขึ้นมา ตบมือเชียร์สนั่นหวั่นไหว
หว่านไปข้างหน้า มุ่งไปข้างนอก แต่ในบ้าน หลังบ้านยังสับสนอลหม่าน เป็นผลดีจริงหรือ
ถึงเวลาโชว์ฝีมือกันแล้ว หวังว่าจะมีให้โชว์...
“เบี้ยหงาย”