บรรลุเป้าหมาย

“เจ็ตสกี” นับเป็นอีกชนิดกีฬาที่ สร้างชื่อให้กับประเทศอย่างต่อเนื่องไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องผลงานในระดับนานาชาติ ที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ “ต้นแบบการพัฒนากีฬาไทย ด้านทรัพย์สินทางปัญญา” จนเป็นซอฟต์พาวเวอร์โด่งดังไปทั่วโลก

อย่างที่เคยเล่าให้ฟังเมื่อสัก 20 ปีก่อนประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ “เจ็ตสกี” รายการใหญ่ต้องใช้งบประมาณที่ค่อนข้างสูงเพราะต้องเสียค่าจ้างนักแข่งดังระดับโลกเดินทางมาร่วมการแข่งขัน

แต่ล่าสุด “กีฬาเจ็ตสกี” สามารถปฏิรูปวงการอย่างเป็นรูปธรรม หลังได้ “เสี่ยเดร็ค” ปริเขต สืบสหการ เข้ามานั่งผู้อำนวยการทัวร์นาเมนต์เจ็ตสกีโลก มีการ “คิดใหม่ทำใหม่” จนเจ็ตสกีไทยเติบโตแบบฉุดไม่อยู่

โดยเฉพาะรายการ “เวิลด์ซีรีส์” ที่มีหลายชาติแห่จองคิวเป็นเจ้าภาพจัดแบบข้ามปี

ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นของกีฬาเจ็ตสกี ที่สำคัญรายการที่ไทยเป็นเจ้าภาพในยุคนี้มีแต่นักแข่งแห่จองที่จะมาร่วมวง แม้จะต้องเสียเงินเพื่อเข้าแข่งขัน ก็ขอให้ได้เป็นหนึ่งในส่วนร่วมของทัวร์นาเมนต์

รายการ “WGP#1 เจ็ตสกีเวิลด์คัพ 2023” ซึ่งจะชิงชัยที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 13-17 ธ.ค. ถือว่าบรรลุเป้าหมายอย่างชัดเจน เพราะมีทีมกีฬากว่า 3,000 คน กว่า 40 ชาติ แห่เข้าร่วมการแข่งขัน จะว่าไปแล้วสามารถเทียบขั้น “มหกรรมกีฬา” ได้เลย

ไม่ใช่แค่เรื่องชาติที่เข้าร่วมเท่านั้น อีกสิ่งที่ถือว่าสร้างชื่อและความคุ้มค่าคือเป็น “คอนเทนต์กีฬา” ที่ดีที่สุดในโลกชนิดกีฬาหนึ่ง ทำให้ได้รับความสำคัญในการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมออกไปยัง 121 ประเทศทั่วโลกด้วย มีเป้าหมายผู้ชมทั่วโลกกว่า 100 ล้านคน

นับเป็นภาพใหญ่ที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยในหลายด้าน อาทิ มีสื่อของตัวเองบนเวทีโลก เป็นประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย เป็นประโยชน์ต่อด้านการสร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวไทย ฯลฯ

วันนี้ทัวร์นาเมนต์เจ็ตสกีของไทยกำลังประสบความสำเร็จอย่างสูง ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในการบริหารกีฬาเจ็ตสกีโลก อยู่ในจุดสูงสุดของระบบนิเวศกีฬา มีชาติสมาชิกเครือข่ายทั่วโลกกว่า 40 ชาติ และมีเป้าหมายเพิ่มเป็น 55 ชาติ ในปี 2568

ความสำเร็จของนักเจ็ตสกีไทยโดยเฉพาะรายการ “เวิลด์ไฟนอล” ที่สหรัฐฯ ทำให้ชาวต่างชาติยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าของเกมก่อนหน้านี้ ร้อนรน และพยายามสกัดการเติบโตของทัวร์นาเมนต์ไทยทุกวิถีทาง

แต่ก็เชื่อมั่นว่า วันนี้คนไทยมีศักยภาพที่จะสร้างความสำเร็จอันดับที่ 1 ของโลกได้ยั่งยืนแน่นอน.

โจโจ้

คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม