ปรับแผนชิงแชมป์โลก

ปรับแผนชิงแชมป์โลก

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก

เผลอแป๊บเดียว การแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ซึ่งปีก่อนมาจัดที่ภูเก็ต บ้านเรา 

ซึ่งผมได้มีโอกาสล่องใต้ไปสัมผัสการชิงชัยถึงขอบสนามเป็นครั้งแรกในชีวิตกับเค้าด้วย

ก็กำลังจะระเบิดศึกขึ้นอีกครั้ง 

โดยปีนี้เป็นการจัด ครั้งที่ 14 ที่เมืองกังวอน ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 6-12 พ.ย.นี้ 

จำได้ว่าเมื่อปีก่อน ที่เราเป็นเจ้าภาพ 

สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ส่งนักกีฬาเบ่งกล้ามทีมชาติไทย

เข้าร่วมอย่างเต็มพิกัดถึง 46 คน

ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ด้วยการคว้ามาได้ 10 แชมป์โลก กับอีก 13 เงิน 5 ทองแดง

ดูแนวโน้มแล้วน่าจะช่วยต่อยอดการพัฒนาวงการเพาะกายไทยให้เติบใหญ่ยิ่งขึ้นได้อีกอักโข

แต่อนิจจา! เกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา การตอบรับจากภาครัฐที่รับผิดชอบดูแลกีฬาโดยตรง กลับเงียบฉี่! 

เม็ดเงินที่จะช่วยอัดฉีดเป็นกำลังใจให้นักกีฬา และสมาคมฯ 

ไม่เคยมีกระเด็นออกมาแม้แต่บาทเดียว 

หนำซำ้งบประมาณสนับสนุนที่เคยได้รับในแต่ละปี ก็ไม่มีความชัดเจนแน่นอนแต่อย่างใด

เรียกว่าผู้บริหารสมาคมกีฬาทุกวันนี้ ต้องนอนเอาเท้าก่ายหน้าผาก

เพราะยิ่งทำ ยิ่งเข้าเนื้อไปทุกวัน

จนหลายท่านเริ่มถอดใจ...บอกศาลาไปเรียบร้อยแล้ว 

ซึ่ง สมาคมเบ่งกล้ามไทย ก็กำลังตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นเดียวกัน 

ถึงขนาดต้องปรับแผนการส่งนักกีฬาเข้าร่วมศึกเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ที่แดนโสม กันใหม่ทั้งหมด

โดยบิ๊กศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เผยว่า 

จากการประชุมวางแผนร่วมกันของกลุ่มสตาฟฟ์โค้ช และกรรมการบริหารของสมาคมฯ 

ในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมศึกชิงแชมป์โลกปีนี้ 

สมาคมฯ ได้พิจารณาความพร้อมในด้านต่างๆ โดยเฉพาะงบประมาณการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ

ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา สมาคมเพาะกายฯ ประสบปัญหาอุปสรรคอย่างมาก 

โดยเฉพาะการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง 

ทำให้การวางแผนงานต่างๆ ของสมาคมต้องปรับเปลี่ยน

เพื่อให้การบริหารงานของสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เป็นไปอย่างดีที่สุด

ดังนั้นในศึกเบ่งกล้ามโลก 2023 เราจึงตัดสินใจส่งนักกีฬาไปร่วมล่าแชมป์เพียงแค่ 6 คนเท่านั้น 

ถือว่าน้อยที่สุดจากทุกทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา ในรอบหลายๆ ปีเลยทีเดียว   

นำทีมโดย 3 แชมป์เก่า 

ศิริพร สอนช่วย

วันชัย กาญจนพิมาย 

อาจารี แท่นทรัพย์ 

และนักกีฬาดาวรุ่งเจ้าของแชมป์เอเชียล่าสุด ที่ประเทศเนปาล อีก 3 คน คือ 

สายใจ สุสมแก้ว

กันติชา สีจันทร์

และ จินตรามณฑ์ ทวีเมธีโชติ 

โดยนักกีฬาทั้ง 6 คนได้ร่วมทำการฝึกซ้อมภายใต้การดูแลของทีมผู้ฝึกสอนของสมาคมฯ อย่างใกล้ชิด 

ที่ศูนย์ฝึกนักกีฬาเพาะกายเพื่อการแข่งขัน The Physique ชั้น 3 ไอทีสแควร์ หลักสี่ กรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตาม การส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลกในครั้งนี้ ถึงแม้จะเป็นจำนวนที่น้อยเพียง 6 คน

แต่สมาคมฯ ก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องทำผลงานได้อย่างน้อย 2 เหรียญทอง 

โดยทั้งหมดจะออกเดินทางไปลุยแดนกิมจิ ในวันจันทร์ที่ 6 พ.ย.นี้ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 652

ช่วยกันส่งแรงใจ แรงเชียร์ ให้ทัพเบ่งกล้ามไทยกันเยอะๆ ครับ

ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก...อย่างนี้ 

แม้หลายอย่างจะไม่เป็นใจ  

แต่เชื่อว่าด้วยความมุ่งมั่นเกินร้อยของนักกีฬา รวมทั้งสมาคมฯ

ทุกคนพร้อมจะทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างสุดกำลัง...แน่นอน 

ผมรับประกัน!!!  

- บี บางปะกง - 
      joggingboy_be@yahoo.com