เบี้ยหงาย
เดินหน้าเต็มตัว กลไกขับเคลื่อนประเทศในด้านต่างๆภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งก็คือชุดปัจจุบันที่มีนายก รัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้บริหารสูงสุด ซึ่งก็มีการจัดสรรตำแหน่งต่างๆ เกือบหมดแล้ว
ในส่วนงานกีฬาเรา นอกจากตัวเจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “รมต.ปุ๋ง” สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ที่เปิดมาได้รวดเร็วมากกว่ากระทรวงไหนๆ และนายกรัฐมนตรีนำเปิดเองด้วย มุมบวกก็สะท้อนให้เห็นถึงความชัดเจน และจริงจัง รวมถึงอยู่ในสายตาแน่
ฟันเฟืองอื่นๆที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน เผลอๆอาจจะมีบางมุม บางบริบทที่มากกว่าเสียด้วย ก็เปิดหน้าเผยโฉมออกมาเรียบร้อย
รองนายกฯ ที่กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีการแบ่งงานให้รองนายกฯ ปานปรีย์ พหิทธานุกร ซึ่งท่านควบเป็น รมว.ต่างประเทศ อยู่ด้วย เป็นผู้รับผิดชอบ
แต่ทั้งนี้นั้น รองนายกฯ ที่กำกับดูแลไม่ได้หมายถึงการเป็นประธานบอร์ดการกีฬาฯ หรือ บอร์ดกองทุนฯ ซึ่งจะต้องมีการมอบหมายเป็นทางการอีกที หาก...นายกรัฐมนตรีไม่มานั่งเป็นเอง ก็ต้องรอดูความชัดเจนที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้แหละ
ขณะเดียวกัน การที่จะได้ประธานบอร์ดการกีฬาฯ เป็นใคร นายกรัฐมนตรี หรือมีการมอบหมายรองฯ คนใดก็แล้วแต่ อาจจะไม่ใช่เป็นเรื่องที่สะท้อนอะไรออกมามากนัก จะเป็นใครก็อยู่ในสายตาสาย ตรงของ “บิ๊กนิด” เศรษฐา ทวีสิน ทั้งนั้น
ก็ด้วยมีการแต่งตั้งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน อันมี กิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานที่ปรึกษา คงจำกันได้ว่า ก่อนหน้านี้ตั้งแต่หลังเลือกตั้งใหม่ๆ ชื่อของ “กิตติรัตน์” ที่คนกีฬารู้จักดีและเคียงคู่กับนายกฯ เศรษฐามาตลอด ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นที่คาดหมายกันอยู่ว่าจะมาเป็นหลักช่วยดูด้านกีฬา นั่นก็เป็นการย้ำอีกทีว่า เรื่องกีฬานั้นแน่วแน่มาแต่ต้น
ไม่เท่านั้น บรรดาที่ปรึกษาใน 9 ท่านที่แต่งตั้งมานี้ นอกจากประธานโต้ง กิตติรัตน์ ณ ระนอง แล้ว ยังมีชื่อของคนที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวพัน และมีความ คุ้นเคยกับเรื่องกีฬามาหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น เทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานสโมสรนครราชสีมาฯ, พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยฯ หรือ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดฯ
ต้องถือว่ามีเชื้อสายคนกีฬาอยู่ในทีมที่ปรึกษามากทีเดียว อย่างน้อยก็ต้องรู้เรื่องกีฬาเป็นทุน และบางท่านรู้มากเสียด้วย ไม่เพียงแค่รู้ ยังเป็นผู้ลงมือปฏิบัติขับเคลื่อน เจอทั้งปัญหาอุปสรรค เจอเรื่องสารพัด แต่ก็ฝ่าฟันทำทีมกีฬาสร้างชื่อเสียงให้ประเทศมามากมาย
เมื่อหัวยอด นายกรัฐมนตรี สนใจและเล่นกีฬามาตลอด เป็นฐานทุนที่ยิ่งใหญ่ของวงการกีฬา ทีมงานก็แวดล้อมด้วยคนกีฬา และไม่เพียงทีมงานที่มี “ตำแหน่ง” ยังมีทีมงานที่แบบไร้ตำแหน่ง แต่เป็นคนกีฬาที่เคียงข้างไว้เนื้อเชื่อใจก็เห็นอยู่
นับเป็นแต้มต่อที่ดีกว่าทุกครั้ง แต่ดีกว่าก็ใช่จะสำเร็จ สมหวัง จงเอาสิ่งที่รู้ ที่เห็น และสัมผัสมาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนให้ถูกจุด และอย่าให้ใครหลอก ตีกิน เอานโยบายรัฐ กับความคาดหวังของผู้คนไปบิดเบือนหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋า ที่ปรึกษา “พิมล” รู้อยู่เต็มอก
เมื่อรู้แล้ว ไม่เอามาใช้ ไม่ทำ ก็ไร้ค่า ไร้ประโยชน์!
เห็นหน้าเห็นตากันแล้ว ดูดีอยู่ แต่ก็ต้องรอดูใจ พิสูจน์ผลงานกันต่อไปว่าจะเป็นเช่นไร...
“เบี้ยหงาย”