หน้าแรกแกลเลอรี่

กระชับวงล้อมปันความคิด #โหมโรงหางโจวเกมส์

ไทยรัฐออนไลน์

25 ส.ค. 2566 15:59 น.

โหมโรงหางโจวเกมส์

จากนี้ไปอีกไม่นานมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวเอเชีย หรือเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยนครหางโจวที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 23 กันยายน-8 ตุลาคม 2566 ก็ใกล้จะเปิดม่านให้นักกีฬาจากทั่วเอเชียได้แสดงพลังความสามารถกันอีกครั้ง

เอเชียนเกมส์หรือหางโจวเกมส์ครั้งนี้ถือว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ประเทศมหาอำนาจจากกำแพงเมืองจีนจะได้แสดงให้มวลหมู่สมาชิกและแฟนกีฬาทั่วโลกได้ประจักษ์ในศักยภาพด้านต่างๆ

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ถึงแม้เจ้าภาพจะประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนทำให้เกมต้องเลื่อนการจัดการแข่งขันมาในปีนี้ แต่ในฐานะเจ้าภาพก็ได้เตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในมิติของสนามจัดการแข่งขันและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

พร้อมกันนั้นเพื่อให้หางโจวเกมส์เป็นมหกรรมกีฬาที่สมบูรณ์ที่สุดเจ้าภาพยังได้มีสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและให้ความสำคัญกับการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

วันนี้โลโก้และมาสคอตการจัดการแข่งขันจึงแพร่กระจายไปทั่วในทุกพื้นที่ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมาสคอตของหางโจวเกมส์ได้จัดออกเป็น 3 ชุด ประกอบด้วยคองคอง เหลียนเหลียน และเฉินเฉิน

ที่น่าสนใจเพื่อให้สีสันของเกมนี้เป็นหนึ่งในหน้าตาของประเทศและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก จีนจึงได้ทุ่มงบประมาณเพื่อเนรมิตสนามใหม่รองรับการจัดการแข่งขันเพิ่มขึ้นถึง 56 แห่งใน 6 เมืองใหญ่ของมณฑลเจ้อเจียง ได้แก่ หางโจว หนิงโป เหวินโจว ฮูโจว เซ่าจิง และจินหัว

สำหรับชนิดกีฬาที่จะให้ชาติต่างๆ ได้ประลองความสามารถเจ้าภาพได้บรรจุรวมทั้งสิ้น 40 ชนิด โดยมีเหรียญทองให้ชิงกันถึง 482 เหรียญภายใต้นักกีฬาที่เข้าร่วมถึง 11,420 คน โดยประมาณ และจากจำนวนนักกีฬาดังกล่าวทำให้เห็นว่าครั้งนี้มากกว่าครั้งที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพในปี 2018

ขณะที่รายได้จากนักท่องเที่ยวและผู้เข้าชมในสนามนั้นเจ้าภาพคาดหวังว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนั้นเมื่อส่องไปดูที่การจำหน่ายบัตรเข้าชมเจ้าภาพหวังว่า จะได้มากกว่า 3 ล้านใบ

หันกลับมาที่ความพร้อมและความหวังของทัพนักกีฬาไทยกับการเข้าร่วมในครั้งนี้ ล่าสุดจากการที่สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทยได้จัดมีต เดอะ เพรส เพื่อแถลงความพร้อมของสมาคมกีฬาต่างๆ พบว่าไทยจะส่งนักกีฬาเข้าร่วมจำนวน 940 คน แบ่งเป็นชาย 509 คน หญิง 431 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ประจำทีม 269 คน แพทย์ 25 คน และผู้ตัดสิน 20 คน

เบื้องต้นในด้านความคาดหวังกับผลงานหรือโอกาสในการหยิบเหรียญทอง คณะกรรมการเตรียมการนักกีฬาตั้งเป้าไว้ที่ 20 เหรียญทอง และขอเป็นหนึ่งในอาเซียน

อย่างไรก็ตาม ด้วยวิวัฒนาการและเทคโนโลยีของโลกกีฬาที่นับวันจะเจริญมากขึ้นตามลำดับเชื่อว่าทุกชาติที่เข้าร่วมคงจะเตรียมการเพื่อให้นักกีฬาของตนประสบความสำเร็จให้มากที่สุด

ขณะที่ทัพไทยครั้งนี้คงจะเป็นอีกครั้งที่จะต้องเผชิญกับศึกหนักและต้องแบกรับกับความกดดันเพื่อไล่ล่าหาเหรียญทองสำหรับสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ และส่งความสุขให้กับแฟนกีฬา

และเหนืออื่นใดการที่ทัพนักกีฬาไทยจะก้าวไปถึงความหวังและเป้าหมายได้หรือไม่อย่างไร ก็คงจะขึ้นอยู่กับการเตรียมการในมิติที่เกี่ยวข้องนั่นเอง

รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร